วันที่ 8 ก.พ. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ธีรรัตน์ สำเร็วาณิชย์ ส.ส.กทม. โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย ประกอบด้วย เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานครพรรคเพื่อไทย (พท.) สิทธิชัย กิตติธเนศวร อดีต ส.ส.นครนายก สงคราม กิจเลิศไพโรจน์ อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ แถลงเปิดตัว สนธยา คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม สุกุมล คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม แกนนำกลุ่มเรารักชลบุรี พร้อมด้วย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคเพื่อไทย จำนวน 12 คนที่วางไว้จะลง ส.ส.แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ
นพ.ชลน่าน ระบุว่า สนธยาและทีมงานว่าที่ผู้สมัคร 12 คน ทั้งเขตและบัญชีรายชื่อ ขอบคุณที่ร่วมการตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทย ทำให้นึกย้อนไปเมื่อปี 2548 ที่ทีมงานสนธยาและคณะได้ร่วมพรรคไทยรักไทย ทำให้ชนะอย่างถล่มทลายได้ ส.ส. 377 ที่นั่ง โดยเฉพาะภาคตะวันออกได้รับความไว้วางใจทั้งจังหวัดชลบุรี ปรากฎการณ์นั้น ในปี 2566 เชื่อมั่นว่าคนจังหวัดชลบุรี และคณะว่าที่ผู้สมัครทุกเขต มีข้อเรียกร้องมาร่วมงานนำพาประชาชนทั่วประเทศก้าวไปสู่อนาคตที่ดีมีความหวังมีโอกาสลูกหลานของพวกเรา
"ไม่อาจเอาระบบเดิมออกไปได้ด้วยวิธีใดๆ นอกจากปลายปากกา กากบาทออกไปทั้งระบบเขตและบัญชีรายชื่อ่่ ใช้ปากกาล้มระบอบเดิม โดยกาบัตรเลือกตั้ง" นพ.ชลน่าน กล่าว
ด้าน ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ดีของพรรคเพื่อไทยอีกวันหนึ่ง ที่ได้ต้อนรับนายสนธยา คุณปลื้ม และทีมชลบุรีกลับเข้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งชลบุรีเป็นจังหวัดหลักในภาคตะวันออก มีความสำคัญ มี ส.ส.แบบแบ่งเขต 10 คน พรรคให้ความสำคัญกับพื้นที่ชลบุรี จึงเปิดตัวผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ชลบุรี พรรคเพื่อไทย จำนวน 12 คน ได้แก่
1. สนธยา คุณปลื้ม อดีต ส.ส.ชลบุรี หลายสมัย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
2. สุกุมล คุณปลื้ม อดีต ส.ส.ชลบุรีและอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
3. สุภีพันธุ์ หอมหวล สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี
4. ฉัตรชัย อั้งลิ้ม อดีตนายกเทศมนตรีเมืองบ้านสวน
5. อนันต์ ปรีดาสุทธิจิตต์ อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี
6. แมน อินทร์พิทักษ์ อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรือ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองหนองปรือ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี
7. เชาวลิตร แสงอุทัย อดีตนายอำเภอบางละมุง อดีตปลัดจังหวัดชลบุรี อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร
8. พนธกร ใคร่ครวญ รองนายกเทศบาลเมืองสัตหีบ
9. สัมฤทธิ์ พงษ์วิรัตน์ อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี อดีตผู้ช่วยดำเนินงานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี หลายสมัย อดีตผู้เชี่ยวชาญประจำตัวสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ อดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
10. เดชา จันทร์เล็ก อดีตกำนันตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี
11. สงกรานต์ ภาชนะ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครเจ้าพระยาสุรศักดิ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี
12. ชาญยุทธ เฮงตระกูล อดีต ส.ส.ชลบุรี
จากนั้น สนธยา กล่าวว่า เป็นตัวแทนทีมชลบุรี เรามีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้ร่วมทำงานกับพรรคเพื่อไทย จากที่หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้บอกว่า ปี 2548 ทีมเราเป็นทีมเดียวกันในสมัยพรรคไทยรักไทย ได้สร้างผลงานได้รับความไว้วางใจแบบแลนด์สไลด์ ในพื้นที่และภาคตะวันออกทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นปรากฏการณ์ประวัติศาสตร์ทางการเมือง ถ้าหากอยู่ในความทรงจำ ทีมชลบุรีได้ร่วมตัดสินใจเข้าพรรคเพื่อไทยได้ร่วมทำงานด้วยกัน จนถึงปัจจุบันในเรื่องนโยบายคิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน กับนโยบายที่หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยได้ประกาศนโยบายออกมา เป็นนโยบายที่เราได้เริ่มต้นได้รับฟังจากประชาชน ผู้สมัครของทีมชลบุรีล้วนหลากหลาย
สนธยากล่าวว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย เชื่อมั่นจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอย่างแลนด์สไลด์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ประเทศไทยก้าวไปสูู่ประเทศที่แข่งขันได้เหมือนในอดีตที่ผ่านมา จึงทำให้ทีมชลบุรีมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่า ทีมชลบุรีจะกวาด ส.ส.ได้หรือไม่ สนธยา กล่าวว่า เรามั่นใจว่าสิ่งที่ทำมาผลงานในทีมชลบุรีและพรรคเพื่อไทยในอดีตจนถึงปัจจุบันและตัวผู้สมัคร เราเชื่อว่าแลนด์สไลด์ทั้ง 10 เขต
ถามย้ำว่า แสดงว่ากลุ่มบ้านใหญ่จะทวงคืนพื้นที่คืนจาก ส.ส.ที่ย้ายกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สนธยา กล่าวว่า ถ้าเรียกว่าบ้านใหญ่ ก็เป็นพื้นที่บ้านใหญ่อยู่แล้ว ลงสมัครอยู่แล้ว ดังนั้น ก็เป็นผลงานของทีมบ้านใหญ่อยู่แล้ว การไปทำงานหรือทวงคืนเป็นสิ่งที่ชัดเจนอยู่แล้ว เพราะคือพื้นที่ของเราเป็นทีมเดียวกัน ใครจะไปตรงไหนด้วยความเป็นเราทีมงานของเราจริงจังจริงใจมาตลอดทำให้ปรปะชาชนให้ความไว้วางใจ พื้นที่ 10 เขตจะได้รับความไว้วางใจ
นพ.ชลน่านระบุเสริมว่า เป็นบ้านใหญ่ที่มีความยึดมั่นกับพี่น้องเป็นหลัก ตนมั่นใจความเป็น จะชนะเลือกตั้งทั้ง 10 เขต
ถามว่า บ้านใหญ่ต้องสู้บ้านใหม่จะกวาดส.ส.ได้หรือไม่ สนธยา กล่าวว่า เป้าหมายกวาดครบทุกเขตแน่นอนในครั้งนี้ ส่วน อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นั้น สนธยา กล่าวว่า เราคุยอยู่ตลอด ครั้งนี้ ความเห็นของพี่น้องทุกคน ลงมติเรามาเพื่อไทย และในส่วนอิทธิพล ยังเป็นรมว.วัฒนธรรมยังปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีจนกว่าจะครบวาระ ทำหน้าที่ในฐานะ ครม.อย่างเต็มที่ อิทธิพลปฏิบัติหน้าที่เวลางาน แบ่งการทำงานการเมือง มติของครอบครัว
เมื่อถามย้ำว่า อิทธิพล จะมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ สนธยา กล่าวว่า "เราไปด้วยกันมาด้วยกัน ณ วันนี้ เรามีมติร่วมกันในส่วนพี่น้องในบ้านเรามาเพื่อไทยมติร่วมกันเป็นหัวใจอยู่แล้ว หน้าที่ใครจะปฏิบัติหน้าที่ก็ปฏิบัติหน้าที่กันไป"
"เชื่อว่าไม่มีปัญหาใน ครม.เพราะเป็นเรื่องการทำงาน อิทธิพลยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ เราไม่ได้ชมน้อง เขาน่ารัก เขาทำงานกับนายกฯ ก็ทุ่มเทเต็มที่และรู้ไปทางไหน ก็รู้กัน อย่างที่เรียน เราไม่แตกกันไปไหน" สนธยา กล่าว
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า อิทธิพล คำนึงถึงมารยาททางการเมือง เป็นความเด็ดเดี่ยวที่น่ายกย่องในการทำหน้าที่ตรงนี้ ไม่เหมือนใครบางคนอีกพรรคหนึ่งไปพรรคหนึ่งแล้ว
"ถ้ารัฐมนตรีเป็นหนอน ก็มีแม่หนอนอีก ตำแหน่งนายกฯ อีกพรรคมาอยู่พรรคหนึ่งประกาศชัดเจนไม่ใหญ่กว่าหนอนเหรอ" นพ.ชลน่าน กล่าว
ถามถึงกรณีที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ประกาศจะแลนด์สไลด์ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นลูกอีสาน ไม่ด่างพร้อยเรื่องทุจริต นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอบคุณเอาคำของพรรคเพื่อไทยไปขยายความ แลนด์สไดล์หมายถึงชนะเลือกตั้งอย่างแลนด์สไลด์ แต่ใช้ไม่ถูก เพราะแลนด์สไลด์อีกความหมาย คือพังทลายความหมายต้องใช้ให้เป็นด้วย และต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงด้วย สิ่งที่ท่านประกาศก็มีสิทธิเสรีภาพในการประกาศ จะเป็นจริงหรือไม่อยู่ที่พี่น้องประชาชนและภาพ 8 ปี ประชาชนเข้าใจ จะขายเรื่องซื่อสัตย์ สุจริตมันจบที่พรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว การไม่ทำอะไรปล่อยให้เหลื่อมล้ำให้ประชาชนอดอยากปากแห้ง ให้เห็นภาพชัดเจนนอย่างนี้เรียกว่าซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ มันเป็นการละเว้นโดยทุจริต ตนว่าขายไม่ได้