ไม่พบผลการค้นหา
เครื่องบิน ทอ.ไฟลท์แรก นำ 130 คนไทยกลับถึงประเทศ 'สุทิน' อวยพรรับขวัญ "มาเด้อขวัญเด้อ เอาขวัญมาบ้าน หมดทุกข์หมดโศก" คาดสิ้นเดือน ต.ค.นำกลับมาได้ 6 พันคน หากโอกาสสะดวกอาจมากว่านี้

วันที่ 16 ต.ค. เวลา 06.50 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เครื่องบิน A-340-500 เที่ยวบิน RTAF218 ETA ของกองทัพอากาศ (ทอ.) ที่เดินทางไปอิสราเอล เพื่อไปปฏิบัติภารกิจอพยพคนไทย (ตั้งแต่ 00.30 น. คืนวันที่ 15 ต.ค.) ได้เดินทางจากสนามบินนานาชาติ Ben Gurion อิสราเอล กลับมาถึงประเทศไทย 

พร้อมกับแรงงานและคนไทย จำนวน 130 คน ประกอบด้วย เด็กผู้หญิงอายุ 5 ขวบ 1 คน (เป็นลูกของข้าราชการสถานทูตไทย), ผู้หญิง 2 คน และเป็นผู้ชาย 127 คน โดยในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยจากการหกล้ม (ก่อนหน้าที่จะเกิดการสู้รบ) 1 คน, มีอาการขาเจ็บ และแขนหัก (ผ่าตัดมาแล้ว) 1 คน ,และมีคนที่มีอาการหวัด จำนวน 5 คน (ตรวจ ATK แล้วผลเป็นลบ) 

ทันทีที่เครื่องบิน ทอ. ลงจอด ผู้โดยสารได้รับการต้อนรับจาก สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย 

รมว.กลาโหม กล่าวต้อนรับคนไทย และขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปรับว่า สิ่งแรกเลยที่อยากพูดคือ เห็นทุกคนที่มาวันนี้ก็ดีใจและชื่นใจที่ได้เห็นทุกท่านกลับมาโดยสวัสดิภาพ พร้อมกับภารกิจพาพี่น้องเรากลับมาสำเร็จสมบูรณ์ ซึ่งทุกคนคนได้กลับมาสู่แผ่นดินและครอบครัว ทั้งนี้ตนในฐานะกองทัพและประชาชนคนไทยทุกคนก็ขอบคุณเจ้าที่ ที่เสียสละและปฎิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง 

จากนั้น สุทิน ให้สัมภาษณ์ ว่า วันนี้เป็นการปฎิบัติภารกิจรอบแรกของกองทัพอากาศ ในการไปรับคนไทยกลับมา ส่วนคน 8 คนที่แจ้งความประสงค์ไว้และไม่กลับมาด้วยก็คงมีเหตุผล แต่เข้าใจว่าอาจจะมีอุปสรรคในการเดินทางมาสนามบินหรือยังคงลังเล โดยคนที่กลับมาจากนี้ก็จะนำใบตรวจสุขภาพที่สถาบันบำราศนราดูล 

ขณะที่แผนการไปรับคนไทยของกองทัพอากาศครั้งต่อไปจากนี้จะมีอีก 5 เที่ยวบิน โดยครั้งต่อไปจะเป็นวันที่ 18 ตุลาคมนี้ 

เมื่อถามถึงความปลอดภัยของคนไทยที่จะเดินทางมายังศูนย์อพยพ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ก็ยังมีอุปสรรคอยู่เนื่องจากมีสถานการณ์สู้รบ ฉะนั้นจึงทำให้การเดินทางจากจุดยังคงลำบากซึ่งถือว่าเป็นปัญหาส่วนใหญ่ ขณะที่ปัญหาหนังสือเดินทางถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย 

เมื่อถามถึงการจัดเปิดพื้นที่ปลอดภัย สุทิน ระบุว่า ทางสถานทูตก็ดำเนินการอยู่ตลอด และทางกองทัพก็ส่งบุคลากรไปช่วยเหลือและประสานงานอยู่ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าในสถานการณ์เช่นนี้ทางอิสราเอลก็เคร่งครัดในเรื่องมาตรการต่างๆ พร้อมเผยว่ายอดคนที่จะนำกลับมีคร่าวๆภายในสิ้นเดือนนี้ จะมีคนไทยกลับมาเกือบ 6 พันคน และถ้าหาทางออกได้เพิ่มอีกก็เชื่อว่าจะสามารถนำมาได้เพิ่มอีก 

เมื่อถามว่า เที่ยวบินดังกล่าวมีเด็กและชาวต่างชาติมาด้วยนั้น สุทิน ชี้แจงว่า เป็นครอบครัวของข้าราชการไทยกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งก็ถือว่าเป็นครอบครัวของเรา

ช่วงหนึ่งระหว่างที่พบกับคนไทยที่เดินทางกลับมา สุทิน พูดว่า ทราบว่าคนที่มาเป็นคนอีสานเยอะ แม่นเบิด ก่อนอวยพรว่า "มาเด้อขวัญเด้อ คือเอาขวัญมาบ้าน หมดทุกข์หมดโศกแล้ว รอดตายแล้ว กลับบ้าน" เช่นเดียวกับพี่น้องชาวเหนือและใต้เหมือนกัน พร้อมทิ้งท้ายว่าก็ดีใจที่ทุกคนได้กลับมา

อย่างไรก็ตามจากนั้นผู้ที่เดินทางกลับมาได้รับการตรวจสุขภาพเบื้องต้น พร้อมลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตนรับสิทธิการเยียวยาจากกระทรวงแรงงาน และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จากนั้นขึ้นรถบัสจำนวน 5 คัน เพื่อเดินทางไปตรวจสุขภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่สถาบันบำราศนราดูร ก่อนแยกย้ายกลับตามภูมิลำเนา โดยจะมีญาติและครอบครัวส่วนใหญ่ไปรอรับที่โรงพยาบาล

สำหรับเรื่องเงินช่วยเหลือเยียวยา กระทรวงแรงงาน จะรับคำร้องเพื่อขอความสงเคราะห์เงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนงานไปทำงานในต่างประเทศไว้ก่อน แล้วส่งให้แรงงานแต่ละจังหวัด รับเรื่องไปพิจารณา เพราะการเดินทางมารอบนี้มีแรงงานจำนวนมาก หลังจากนั้นหากเอกสารครบ จะใช้เวลาไม่เกิน 3 วัน จะมีเงินโอนเข้าบัญชี 15,000 บาท โดยทางกระทรวงแรงงานได้จัดโต๊ะไว้รองรับแรงงานทั้งหมด

ทั้งนี้ เครื่องบินของกองทัพอากาศ ที่จะเดินทางไปรับคนไทย ที่อิสราเอล อีก 5 เที่ยวบิน โดยครั้งต่อไปเป็นวันที่ 18 ต.ค.นี้