นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะรองผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีมีผู้แทนหมู่บ้านบ้านหนองกาว หมู่ 5 ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากภาครัฐแก้ปัญหาน้ำดิบไม่เพียงพอจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยขอรับการสนับสนุนให้ขุดบ่อบาดาลเพิ่มเติม ว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบหมู่บ้านดังกล่าวอยู่นอกเขตชลประทานอาศัยน้ำฝนเป็นปัจจัยหลักปัจจุบันมีบ่อบาดาลใช้ผลิตประปาหมู่บ้านแล้ว 2 แห่ง ซึ่งปริมาณน้ำดิบยังมีใช้เพียงพอ
แต่พบปัญหาน้ำประปาไหลไม่แรงในบางช่วงเวลาที่ประชาชนใช้น้ำพร้อมกันเท่านั้น โดยไม่อยู่ในขั้นวิกฤติ ซึ่งกรณีนี้ไม่เข้าข่ายจำเป็นเร่งด่วนที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำอุปโภค-บริโภคและได้ทำการเกษตรช่วงหน้าแล้ง แม้ภาครัฐจะมีการแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้เกษตรกรล่วงหน้ามาตั้งแต่ต้นหน้าแล้งว่าไม่สามารถสนับสนุนน้ำเพื่อการเกษตรได้
ในเบื้องต้นกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาลโดยให้สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 4 ขอนแก่น เข้าให้ความช่วยเหลือกรณีที่อาจจะมีไม้ผลของเกษตรกรได้รับผลกระทบ ส่วนการแก้ปัญหาระยะยาวสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาแผนงานโครงการในการสนับสนุนแหล่งน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทานทั่วประเทศให้เกิดความยั่งยืนด้านแหล่งน้ำต่อไป
สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์ได้รับงบประมาณจากโครงการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้ง ปี 2562/2563 (เพิ่มเติม) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2563 ที่ดำเนินการอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ 322 แห่ง วงเงินประมาณ 221 ล้านบาท เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะส่งผลให้มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 6.41 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยอยู่ในพื้นที่ ต.นาเชือก อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ 1 แห่ง วงเงิน 564,000 บาท เป็นโครงการขุดสระเก็บน้ำ โดย อบต.นาเชือก เมื่อแล้วเสร็จจะมีปริมาณน้ำ 19,800 ลูกบาศก์เมตรต่อปี
ภาพประกอบ : เขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์