วันที่ 22 พ.ย. ที่อาคารรัฐสภา เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด (ปปง.) แถลงกรณีที่ กมธ.ได้มีการพิจารณาติดตามความคืบหน้าการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินในคดีบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ว่า
โดย เลิศศักดิ์ กล่าวว่า กมธ. ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการติดตาม และศึกษาคดีฉ้อโกง บริษัทสตาร์คฯ มี ดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะอนุ กมธ.เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการดังกล่าว
ด้าน ดนุพร กล่าวว่า กมธ. ได้รับทราบข้อมูลการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินรายคดีของ ชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตประธานกรรมการบริษัทสตาร์คฯ กับพวก จาก ปปง. จึงขอแจ้งให้ประชาชนผู้ได้รับความเสียหายได้รับทราบ
โดย ปปง. ได้ดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบทรัพย์สินนายชนินทร์ กับพวก และมีการดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินแล้ว ประมาณ 300 กว่าล้านบาท ประกอบด้วยเงินสด เงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร เงินลงทุน และหลักทรัพย์ เป็นต้น และทรัพย์สินที่ ก.ล.ต. ดำเนินการอายัดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะพนักงานเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามทรัพย์สินจำนวนนี้มีกลุ่มบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้องหลายราย จึงต้องพิจารณาและตรวจสอบอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้กระทบสิทธิบุคคลภายนอกผู้สุจริตและให้ความเป็นธรรมกับบุคคลที่เกี่ยวข้องดังกล่าวด้วย
ดนุพร กล่าวต่อว่า กรณีเส้นทางการเงินหรือธุรกรรมที่พบในประเทศ ทางปปง.จะดำเนินการอายัดทรัพย์สินจำพวกนี้ก่อน สำหรับกรณีเส้นทางการเงินหรือธุรกรรมที่พบในต่างประเทศจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงินให้มีความชัดเจนอีกครั้ง ทั้งนี้ ทาง กมธ. ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากคดีบริษัทสตาร์คฯ ยื่นคำร้องพร้อมหลักฐานแสดงรายละเอียดแห่งความเสียหาย ต่อ ปปง. ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่ ปปง. ประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีการยื่นคำร้องดังกล่าว