ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2564 มีวาระพิจารณาการจัดสรรงบประมาณในส่วนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จากนั้นในเวลา 15.58 น. ได้เกิดปัญหาองค์ประชุมล่มไม่สามารถประชุมต่อได้ จนนายวราเทพ รัตนากร รองประธานกรรมาธิการคนที่ 3 ซึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุมได้สั่งปิดการประชุม เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ

โดยระหว่างนั้น กรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล อาทิ พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ รวมทั้งส.ส.ซีกฝ่ายค้าน นำโดยพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พากันยืนอยู่หน้าห้องไม่เข้าร่วมประชุม 

รายงานข่าวแจ้งว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์องค์ประชุมล่ม เนื่องจากนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการฯคนที่ 12 ได้เสนอนับองค์ประชุม เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจแนวทางการทำงานของกรรมาธิการซีกพรรคพลังประชารัฐ เพราะความไม่ชัดเจนในการทำงาน 

ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการฯ จากสัดส่วนพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สาเหตุที่องค์ประชุมล่ม เนื่องจากกรรมาธิการฯ ไม่มีการพูดคุยอะไรกันเลย ทำให้ไม่มีใครที่จะตัดสินใจในการทำงานของกรรมาธิการฯ ได้เลย โดยเฉพาะนายวราเทพที่ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ตัดสินใจอะไรไม่ได้เลย ต้องฟังเสียงจากคนข้างนอก ดังนั้นหากสุดท้ายยังไม่มีใครตัดสินเรื่องต่างๆ ในการทำหน้าที่ใน กมธ.ได้ ก็จะส่งผลให้กรรมาธิการฯ ชุดนี้เดินหน้าทำงานต่อไปได้ 

“ในที่ประชุมมีความพยายามจะอะลุ้มอล่วย โดยฝ่ายค้านเสนอให้มีการพูดคุยกัน แต่นายวราเทพก็ประชุมลากไปเรื่อยๆ วงเล็กก็ไม่มีการคุย วงใหญ่ก็ไม่มีการคุย จึงส่งผลให้ไม่มีใครทราบเลยว่าทิศทางของการทำหน้าที่ กมธ.จะเป็นอย่างไร ซึ่งผมเคยเป็น กมธ.งบมาหลายคณะ เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แสดงให้เห็นว่าทุกพรรคเห็นด้วยกับการวางกรอบที่ชัดเจน ยกเว้นพรรค พปชร.พรรคเดียว”

ต่อมาเมื่อเวลา 16.10 น. นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส. มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกกรรมาธิการฯ แถลงว่า ในช่วงที่มีการซักถามอธิบดี 2 กรม จนเมื่อเวลา 15.30 น. ได้เกิดสิ่งไม่คาดคิดเกิดขึ้นคือกรรมาธิการฝ่ายรัฐบาล โดยนายชาดา ได้เดินเข้ามาเสนอให้นับองค์ประชุม โดยที่พรรคฝ่ายค้านไม่ทราบเหตุผลมาก่อน ทำให้นายวราเทพ รัตนากร ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมได้สั่งพักการประชุม 10 นาที เพื่อเปิดโอกาสให้พูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้น

จากนั้นเวลา 15.45 น. ได้เปิดประชุมอีกครั้ง นายชาดายังยืนยันที่จะเสนอให้นับองค์ประชุมเหมือนเดิม โดยมีผู้รับรอง 5 คน ปรากฏว่ากรรมาธิการซีกรัฐบาลทั้งพรรคประชาธิปัตย์พรรคภูมิใจไทย และพรรคฝ่ายค้านได้เดินออกจากห้องประชุมไป เหลือเพียงพรรคพลังประชารัฐ สุดท้ายทำให้องค์ประชุมมีเพียง19 คนไม่ครบองค์ประชุม ประธานจึงได้สั่งปิดประชุมเวลา 16.00 น และนัดประชุมใหม่วันที่ 21 ก.ค. เวลา 09.00 น.

“คิดว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากภายในของรัฐบาลเองเพราะกรรมาธิการในซีกฝ่ายค้านทั้งหมดอยู่ครบ ซึ่งนายวราเทพ บอกว่าเคยเป็นประธาน และรองประธานในการพิจารณางบมาหลายสมัยไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ในลักษณะกรรมาธิการซีกรัฐบาลเสนอนับองค์ประชุมเอง และซีกรัฐบาลพากันเดินออกหมด เรียกได้ว่าโดดเดี่ยวพลังประชารัฐ แสดงว่ารัฐบาลมีปัญหากันเอง เพราะฝ่ายค้านก็อยากให้การทำงานของกรรมาธิการฯ เดินหน้าไปได้เพราะเรามีเวลาจำกัด ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 11 ก.ย. ซึ่งอาจจะเป็นผลการปรับ ครม.หรือเปล่า ผมก็สงสัย และก็เคยเป็นรัฐมนตรีมาเหมือนกัน เพิ่งเห็นว่าการปรับ ครม.มีการทอดยาวไปถึงเดือนสิงหาคม ความจริงมันต้องรวดเร็วไม่เช่นนั้นงานต่างๆ จะไม่เดิน อีกทั้งคนที่ลาออกล้วนเป็นระดับรัฐมนตรีว่าการทั้งนั้น จึงแปลกใจทำไมนายกฯ ถึงได้ยื้อเวลาเพราะท่านก็ได้รับสัญญาณการปรับ ครม.มาแล้ว”

เมื่อถามว่า สถานการณ์เช่นนี้จะนำไปสู่การยุบสภาหรือไม่ นายยุทธพงษ์ กล่าวว่า ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดี แต่ยืนยันว่าปัญหาที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับฝ่ายค้าน เพราะเราพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะ กมธ.พิจารณางบถือว่ามีความสำคัญมาก มีถึง 72 คน องค์ประชุมต้องไม่น้อยกว่า 24 คน แค่นี้ก็ยังไม่ครบ จึงถือเป็นเรื่องสำคัญและน่าวิตก ซึ่งไม่ทราบว่าพรุ่งนี้ (21 ก.ค.) เช้าจะเริ่มประชุมได้หรือไม่