นพพล เหลืองทองนารา ว่าที่ ส.ส.พิษณุโลก พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ได้รับการร้อง เรียนจากพี่น้องเกษตกรถึงปัญหาน้ำทำการเกษตรแล้งหนักมาก ปัญหามาจาก น้ำในเขื่อนสิริกิติ์ที่เป็นเขื่อนหลักที่จะปล่อยน้ำให้พื้นที่เกษตรกรรมใน 3 จังหวัดภาคเหนือตอน มีปริมาณน้ำน้อยมากประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศ เมตร ในขณะเดียวกันเขื่อนแควน้อยบำรุงแดนมีปริมาณน้ำเพียง 640 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงปล่อยน้ำให้เกษตรกรน้อยไม่เพียงพอต่อการ ทำการเกษตร
นอกจากนี้ การแก้ปัญหาหรือการขุดลอกคลองส่งน้ำถือว่าทำได้น้อยมาก ส่งผลให้การส่งน้ำไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ เจ้าหน้าที่อ้างวัชพืชเยอะส่งผลให้การขุดลอก คูคลองหรือการเปิดทางน้ำทำได้ลำบาก ประกอบกับน้ำที่ปล่อยออกมาจากทั้งสองเขื่อนมีน้อยมาก ไม่สามารถส่งน้ำให้เกษตรกรในหลายพื้นที่ได้อย่างทั่วถึง เกษตรกรกังวลมากว่าในปีจะไม่มีน้ำทำ การเกษตรอย่างแน่นอน
นพพล กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญคือฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ประกอบกับการทำฝนเทียมก็ไม่ได้ผล เพราะจากการสอบถามที่กรม ฝนหลวงได้รับคำตอบว่าเมฆไม่จับตัว ส่งผลกระทบให้การทำฝนหลวงไม่ประสิทธิภาพ ตลอด 9 ปีที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้งบแก้น้ำแล้งหลายแสนล้านไม่สามารถแก้ปัญหาได้
“อย่างไรก็ตามหากสภาเปิดให้ประชุมเมื่อใด พร้อมที่จะยื่นกระทู้ ถามรัฐบาล ว่าจะแก้ปัญหาน้ำแล้งอย่างไร จะช่วยเหลือเกษตรอย่างไร ในขณะเดียวกัน เตรียมศึกษาโครงการระบบน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรที่พรรคเพื่อไทย ผลักดันเพื่อช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งให้เกษตรกรทั้งประเทศ ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและได้ประสิทธิภาพมาก หากโครงการนี้เกิดขึ้นได้จริงจะช่วยเหลือเกษตรกรในการเพาะปลูกได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหวังว่ารัฐบาลใหม่จะเร่งผลักดันให้เกิดขึ้นเพื่อฟื้นฟูอาชีพเกษตรกรให้อยู่อย่างมีอนาคตที่ดีกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา” นพพล กล่าว