เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ระหว่างที่ลี นัก-ยอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้เยือนญี่ปุ่นเนื่องในวาระพิธีขึ้นครองราชย์ของสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ เขาได้พบและเจรจากับชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น โดยต่างฝ่ายต่างแสดงความต้องการในการฟื้นฟูความสัมพันธ์
แม้จะไม่มีความคืบหน้าชัดเจนในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศจากข้อพิพาทการค้า ทว่าหลังการประชุมประมาณ 20 นาที จากเดิมมีกำหนดการเพียง 10 นาที นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศก็ได้แถลงว่าต้องการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่น โดยลี นัก-ยอน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ ได้มอบจดหมายจากประธานาธิบดีมุน แจ-อิน ให้ชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น
จากรายงานของสำนักข่าวเกาหลียอนแฮปนิวส์เอเจนซี จดหมายดังกล่าวชี้ว่าญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการรักษาสันติกับเกาหลีเหนือและความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมรบเร้าให้มีการแก้ไขข้อพิพาทที่เกิดขึ้น
อาเบะ กล่าวกับลีว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะไม่ปล่อยให้ความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นแบบนี้ต่อไป ทางด้านลีได้ทวีตว่าได้เรียกร้องกับอาเบะให้มีการเจรจากันต่อไป โดยทั้งสองฝ่ายจะพยายามแก้ไขประเด็นปัญหาต่างๆ ซึ่งมีจุดยืนต่างกันด้วยปัญญา
ทั้งนี้ ลีกล่าวว่า หลังเจ้าหน้าที่ทางการทูตของทั้งสองชาติเจรจาอย่างไม่เป็นทางการกันมาจนถึงตอนนี้ ทว่าความสัมพันธ์ทางการทูตนั้นเป็นทางการแล้ว และคาดว่าจะการเจรจาทางการทูตจะเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น
แถลงการณ์จากกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ระบุว่าอาเบะกล่าวกับลีว่าทั้งสองชาติเป็นเพื่อนบ้านที่สำคัญต่อกัน อีกทั้งการประสานงานกันเรื่องเกาหลีเหนือ ความสัมพันธ์ทวิภาคี และความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองชาติกับสหรัฐอเมริกาก็สำคัญเช่นกัน
"ความสัมพันธ์ในขณะนี้อยู่ในจุดที่สาหัส แต่ก็ไม่ควรถูกปล่อยไว้แบบนี้ หากเกาหลีใต้สามารถรักษาสัญญาทวิภาคีได้ ก็อาจเป็นโอกาสที่จะคืนสู่ความสัมพันธ์อันดี" แถลงการณ์ระบุว่าอาเบะกล่าวกับลี
ทั้งนี้ ‘สัญญา’ ที่อาเบะอ้างถึงนั้น คือข้อตกลงในปี 1965 ที่ทางญี่ปุ่นอ้างว่าได้มีการจ่ายเงินเยียวยาให้กับเกาหลีสำหรับเรื่องต่างที่ญี่ปุ่นทำต่อเกาหลีในช่วงที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าอาณานิคมไปแล้ว ขณะที่ทางเกาหลีใต้ยืนกรานว่านั่นเป็นการเยียวยาในระดับรัฐต่อรัฐ แต่ไม่ใช่การเยียวยาปัจเจกที่ได้รับผลกระทบ
นี่เป็นจุดยืนที่แตกต่างที่ทำให้ทั้งสองชาติยังคงไม่สามารถออกจากข้อพิพาทที่เกิดขึ้นได้ หลังศาลเกาหลีใต้ได้ตัดสินให้บริษัทเอกชนของญี่ปุ่นจ่ายเงินเยียวยาผู้ถูกบังคับใช้แรงงานในช่วงที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าอาณานิคมช่วงปี 1910-1945 ขณะที่ทางญี่ปุ่นปฏิเสธและมีการใช้มาตรการคุมเข้มการส่งออกวัตถุดิบเทคโนโลยีที่สำคัญกับเกาหลีใต้ และต่างถอดประเทศอีกฝ่ายจากไวต์ลิสต์ที่ได้รับสิทธิพิเศษทางการค้า
นาโอกิ โอคาดะ รองหัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่า อาเบะย้ำว่าการตัดสินของศาลเกาหลีใต้นั้นขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และทำลายกรอบกฎหมายสำหรับความสัมพันธ์ของเกาลีใต้กับญี่ปุ่น
เมื่อถามว่าการเจรจาในวันพฤหัสบดีนั้นจะเป็นจุดเปลี่ยนหรือไม่ โอคาดะตอบว่า ขึ้นอยู่กับการกระทำของทางเกาหลีใต้ ไม่ใช่คำพูด
นอกจากนี้ ยังปรากฏสัญญาณว่าจุดยืนทั้งสองประเทศยังคงมีช่องว่างระหว่างกันอยู่จากการแถลงของกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ที่อ้างอิงคำพูดของลี นัก-ยอน
แถลงการณ์ของเกาหลีใต้นั้น ระบุว่า ลีกล่าวกับอาเบะว่าทางเกาหลีใต้ได้เคารพข้อตกลงในปี 1965 มาโดยตลอดอยู่แล้ว และจะเป็นเช่นนั้นต่อไป
ที่มา: Reuters / Bloomberg / YNA / JapanTimes
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: