เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา เรือรบลาดตระเวณของรัสเซียและสหรัฐฯ เกือบปะทะกันระหว่างลาดตระเวนอยู่ในน่านน้ำของทะเลจีนตะวันออก ในเขตประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งทั้งคู่ต่างออกมาประณามถึงความไม่ระมัดระวังและความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดขึ้นจากการปะทะกันจากการที่เรือทั้ง 2 ลำเเล่นห่างกันในระนาบคู่ขนานเพียง 50 เมตรเท่านั้น
ทางด้านรัสเซียกล่าวว่า เรือรบลาดตระเวณ Chancellorsville ของสหรัฐฯ นั้นได้เปลี่ยนเส้นทางการเดินเรืออย่างฉับพลัน ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือของรัสเซีย โดยเรือรบของสหรัฐฯ ข้ามเข้ามายังเส้นทางการเดินเรือของรัสเซีย ทำให้เรือทั้ง��องแล่นห่างกันเพียง 50 เมตร และ 100 เมตรเท่านั้น ก่อนที่ลูกเรือรัสเซียจะส่งสัญญาณการปะทะฉุกเฉินไปยังเรือรบของสหรัฐฯ
(ภาพเรือรบของสหรัฐฯและรัสเซียในทะเลจีนตะวันออก)
เคลย์ ดอสส์ โฆษกของกองทัพสหรัฐฯ ที่ประจำการในฐานทัพที่ญี่ปุ่น กล่าวว่า การกระทำของรัสเซียในการตอบโต้เรือรบของสหรัฐฯ ในครั้งนี้นั้น ไม่มีความเป็นมืออาชีพ และไม่ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยตามกฎบัตินานาชาติว่าด้วยการป้องกันทางทะเล รวมไปถึงกฎการเดินเรือในทางทะเลและหลักปฏิบัติศุลกากรทางทะเลนานาชาติ
ทั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เรือรบลาดตระเวนของสหรัฐฯ หวิดปะทะชนกับเรือรบของชาติอื่นๆ ในน่านน้ำภูมิภาคเอเชีย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2018 เรือรบลาดตระเวณของจีนก็แล่นเฉียดกับเรือรบลาดตระเวนของสหรัฐฯ ในน่านน้ำทะเลจีนใต้มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยในครั้งนั้นสหรัฐฯ ก็ได้ประณามจีนว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพ และไม่ตระหนักถึงความปลอดภัยในการเดินทะเล
ที่มา The Guardian /CNN