เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
เมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.) มณฑลหูหนาน มีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำหลากถึง 10 คน และยังคงมีผู้สูญหายอีก 3 คน และประชาชนกว่า 286,000 คน ต้องอพยพออกจากครัวเรือนภายในระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายมากกว่า 2,700 หลัง รวมถึงพื้นที่เกษตรกว่า 600,000 ไร่ ถูกน้ำท่วม ภัยพิบัติในครั้งนี้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับอุตสาหกรรมเกษตรของจีนโดยตรงมากกว่า 4 พันล้านหยวน (ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท) เพราะมณฑลหูหนานถือเป็นศูนย์กลางการผลิตข้าวของจีน
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายเมืองในทางตอนใต้ของประเทศจีน ที่มีผู้เสียชีวิตจากวิกฤตน้ำท่วมและดินโคลนถล่ม อย่างมณฑลฝูเจียนที่พบกับเหตุการณ์น้ำท่วม จนคร่าชีวิตชาวเมืองไปทั้งสิ้น 8 คนด้วยกัน นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิต 5 คนในมณฑลยูนนาน และเด็กอีก 2 คนถูกน้ำพลัดไปในมณฑลกวางซี
ก่อนหน้านี้ทางการจีนได้มีประกาศเตือนความเสี่ยงปริมาณน้ำฝนที่จะเพิ่มสูงขึ้นในปีนี้ โดยประกาศของทางการจีนระบุว่า น้ำจะเริ่มท่วมในช่วงเดือน มิ.ย. หลังจากที่มณฑลเหอหนานได้รับความเสียหายจากน้ำหลากเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว
โดยปกติแล้วการที่มีน้ำท่วมในฤดูร้อนไม่ใช่เรื่องแปลกของประเทศจีน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มาการทำการเกษตรตามลุ่มแม่น้ำแยงซี แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหล่านักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเตือนให้เฝ้าระวังปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก
เมื่อปีที่แล้ว จีนพบกับเหตุการณ์น้ำท่วมรถไฟใต้ดินในเมืองเจิ้งโจว จนกลายเป็นโศกนาฏกรรม เนื่องจากมีผู้คนติดอยู่ในขบวนรถไฟขณะน้ำท่วมกว่าร้อยคน ทั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 12 คนจากเหตุการณ์ดังกล่าว นำมาสู่คำถามที่ว่าจีนมีความพร้อมแค่ไหนที่จะรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
ในฤดูน้ำหลากปีนี้ ทางการจีนจึงเฝ้าระวังเหตุการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่ม โดยมีการพยากรณ์ว่าอาจจะเกิดน้ำท่วมในทางตอนใต้ของประเทศ ตลอดจนการเฝ้าระวังไปถึงพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของทิเบตอีกด้วย
ในเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่อยู่อาศัยและพัฒนาตัวเมืองกับชนบทของจีน และคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน ได้ออกมาเตือนเมืองต่างๆ ให้เฝ้าระวังและป้องกันภัยพิบัติจากการเกิดน้ำท่วมเฉียบพลัน โดยอาศัยบทเรียนจากเหตุการณ์ในเมืองเจิ้งโจว
ทั้งนี้ ประเทศไทยเองควรเฝ้าระวังการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศโลกด้วยเช่นกัน เพราะพื้นที่อุทกภัยในจีนขณะนี้ ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งอยู่ใกล้กันกับพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศไทย คำถามที่เกิดขึ้นคือ รัฐบาลไทยมีการเฝ้าระวังเหตุอุทกภัยและเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศแล้วหรือไม่
ที่มา: