กฎหมายฉบับดังกล่าวยังจะลดจำนวนใบอนุญาตร้านค้าผู้ขายบุหรี่ลงจากเดิม 6,000 ราย ให้เหลือแค่ 600 ราย ภายในปี 2566 ทั้งนี้ การฝ่าฝืนกฎหมายฉบับใหม่นี้่ จะมีโทษปรับมากถึง 150,000 เหรียญนิวซีแลนด์ (ประมาณ 3.34 ล้านบาท)

“ผู้คนหลายพันคนจะมีชีวิตที่ยืนยาวขึ้น มีสุขภาพดีขึ้น และระบบสุขภาพจะมีคุณภาพดีขึ้นถึง 5 พันล้านเหรียญนิวซีแลนด์ (ประมาณ 1.1 แสนล้านบาท) จากการไม่ต้องรักษาโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่ เช่น มะเร็งหลายชนิด หัวใจวาย โรคหลอดเลือดสมอง การเสียแขนขา” อเยชา เวอร์รอลล์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ ระบุในแถลงการณ์

เวอร์รอลล์เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การสูบบุหรี่ในนิวซีแลนด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราผู้สูบบุหรี่ต่ำที่สุดในโลก กำลังลดลง โดยนิวซีแลนด์มีสัดส่วนผู้สูบบุหรี่ลดลงจาก 9.4% เป็น 8% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา นอกจากนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ยังระบุอีกว่า กฎหมายฉบับใหม่นี้จะช่วยลดช่องว่างของอายุขัยเฉลี่ยระหว่างชนชาติเมารีและผู้ที่ไม่ใช่ชาวเมารี ซึ่งมีสูงถึง 25% ในผู้หญิง

นอกจากนี้ กฎหมายฉบับดังกล่าวมีชื่อว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยสิ่งแวดล้อมปลอดบุหรี่และผลิตภัณฑ์ที่มีการควบคุม (ยาสูบรมควัน) จะบังคับให้ผู้ผลิตบุหรี่ต้องลดปริมาณสารนิโคตินที่อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์ยาสูบ เพื่อตั้งเป้าหมายให้ผู้สูบบุหรี่มีอาการเสพติดบุหรี่น้อยลง

จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ อัตราการสูบบุหรี่ของนิวซีแลนด์ในขณะนี้มีต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึก โดยนิวซีแลนด์มีผู้สูบบุหรี่ประมาณ 56,000 คนที่ตัดสินเลิกสูบบุหรี่ในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี การสูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งเนื้อหาของกฎหมายฉบับใหม่นี้ไม่ครอบคลุมถึง ยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ชาวนิวซีแลนด์รุ่นใหม่ โดยข้อมูลอย่างเป็นทางการชี้ให้เห็นว่า 8.3% ของผู้ใหญ่สูบบุหรี่ไฟฟ้าทุกวัน เพิ่มขึ้นจากอัตรา 6.2% ในปีที่ผ่านมา

ที่มา:

https://edition.cnn.com/2022/12/13/asia/new-zealand-tobacco-ban-intl-hnk/index.html?fbclid=IwAR2mopNuMhmpvuMJWo7aVYjKbdpwn-3v63bsT2EGpGXN6HHMRCIw6AoyKbY