พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับฟังการบรรยายของผู้แทนพิเศษระหว่างประเทศเรื่องของการเปลี่ยนแปลงโลก ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า สัญญาว่าหากตนได้อยู่ต่อ จะทำหน้าที่นำพาประเทศด้วยความรับผิดชอบต่อหน้าที่ไม่ใช่เข้ามาเพื่อวัตถุประสงค์อื่น เพราะตนไม่ใช่คนเช่นนั้น ตนต้องการให้พรรคการเมืองคิดแบบตน ไม่ใช่บอก เพียงว่าจะให้อะไร

ทั้งนี้หากตนได้เป็นรัฐบาลต่อก็จะดูแลขับเคลื่อนภายใต้กรอบกฎหมายที่มีอยู่ หากได้อยู่ต่อจริงก็ต้องดูแลให้ได้ พร้อมระบุว่า ดีใจที่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นที่สนใจของทุกคน แต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหม่ที่คนไทยให้ความสนใจกับการเมืองมากขึ้น  พร้อมกันนี้ ขอให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมีความใสสะอาด

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ในขณะนี้เหมือนอยู่ในสนามรบ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา จะตัดสินใจ ว่าจะให้อยู่ต่อหรือจะถอย หากเห็นว่าไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยง ผู้บังคับบัญชาบัญชาสั่งให้ถอย ตนก็ยินดี

พล.อ.ประยุทธ์ ยังไม่สนใจ ที่หลายพรรคการเมือง ประกาศจุดยืนไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง

ลั่นทุกอย่างเดินหน้าด้วยพลังประชารัฐ

ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังรับฟังการบรรยาย การเปลี่ยนผ่านธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล How to transform Your business to become an exponential company in a digital era ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมระบุว่า ตนสร้างไทยแลนด์ 4.0 ขึ้นมาเพื่อเดินหน้าประเทศไทย นำประเทศไปสู่ให้เกิดประโยชน์และโอกาสให้กับประเทศไทย วันนี้เอกอัครราชฑูต เดินทางมาพบตนหลายประเทศ ซึ่งตนก็ฟังรู้เรื่องอยู่และพร้อมจะเพิ่มความสัมพันธ์กันในอนาคต และจะพร้อมที่จะเริ่มต้นภายในวันนี้ และสืบสานต่อ หรือ ให้รัฐบาลหน้าที่จะเข้ามาทำงาน  และการที่ตนทำงานมา 4 - 5 ปี กำลังจะผลิดอกออกผลในอีก 4-5 เดือนข้างหน้า หากต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ และยืนยันว่านี่ไม่ใช่การหาเสียงทางการเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวทีเล่นทีจริง ว่า การเป็นผู้นำ บางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงมาก ผู้นำมีอำนาจเด็ดขาดก็จริง แต่ต้องใช้อำนาจอย่างระมัดระวัง ทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อด้วยพลังประชารัฐที่ไม่ใช่พรรคการเมือง เพราะคำนี้ตนใช้มาก่อนแล้ว 

นายกรัฐมนตรียังย้ำอีกว่า วันนี้สิ่งที่ตนทำอยู่มีอยู่หลายอย่างทั้งเรื่องดิจิทัล วิจัยพัฒนาเอสเอ็มอี กองทุนผู้ประกอบการ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน แต่ยังกังวลในเศรษฐกิจระดับล่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเป็นห่วงตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ ต้องยอมรับว่ายังไม่ดีขึ้น ตนสัญญาว่าถ้ามีโอกาสได้ทำต่อไป ก็จะทำให้มากและดีที่สุดและนี่คือสัญญาของตน ขออย่าไปทวงสัญญาเรื่องนู้นเรื่องนี้พอได้แล้ว 

อย่างไรตนก็อยู่มา 5 ปีแล้ว ถึงแม้ว่าหลายคนจะบอกว่าไม่เห็นอะไรเลย แต่อยากให้ไปดูกฎระเบียบที่แก้ไปแล้วหลายอย่าง พร้อมยอมรับว่า ประเทศไทยข้าราชการกลัวที่ต้องปรับความคิดไปสู่โลกอนาคต การคิดนอกกรอบ แต่ไม่ใช่การทำนอกกฎหมาย สิ่งที่ตนพูดทั้งหมดไม่เกี่ยวกับเมือง แต่สิ่งที่ตนพูดเดี๋ยวก็ไปโดนด่าอีก ทุกอย่างต้องเดินก้าวแรกเสมอแต่เดินอย่าล้ม ทุกอย่างต้องมีโรดแมพ ตนทำทุกอย่างไว้อนาคตเรา และทำเพื่อ Better Life For future 

วอนอย่ารังเกียจ รับอยากหล่อ อดไม่ได้ที่จะโมโห

นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่า ตนอาจจะเป็นคนแบบนี้เสียงดังโวยวาย แต่ตนทำตนรับผิดชอบ เพราะตนเป็นทหาร ต้องทำแบบนี้ ต้องทำให้สำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จก็กลับบ้านไม่ได้ คำว่ากลับไปไม่ได้ ต้องอยู่สนามอยู่ชายแดน จะกลับบ้านก็ต้องตายไปเลย นี่คือสิ่งที่ตนตั้งมั่น ทุกวันนี้ไม่ได้สู้กับใครแล้ว ต้องหยุดความขัดแย้งลงให้ได้ อย่าไปใช้อารมณ์ หลายคนบอกว่าช่วงระยะเปลี่ยนไป ตนไม่เคยเปลี่ยน ตนแค่ทะเลาะกับนักข่าวเท่านั้นเพราะคำถาม

"ขออย่ารังเกียจผมนักเลย บางครั้งคนเราถ้าเป็นตัวตน อย่าไปปิดตัวเองมาก มีอารมณ์ศิลปินบ้าง โมโหบ้าง ผมก็อยากจะหล่อเหมือนกันให้อภัยผมเถอะ ช่วงนี้เป็นช่วงการเปลี่ยนผ่านอย่าไปเสียอารมณ์กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ผมจะพยายามไม่ตอบคำถามในคำถามที่ไม่เกิดประโยชน์ ข้อเสียของตัวเองอย่างหนึ่งก็คือชอบตอบคำถาม และอดไม่ได้ที่จะโมโห นี่คือเรื่องที่ผมต้องแก้เป็นอย่างมาก ผมมาถึงขนาดนี้แล้วหยุดไม่ได้ หยุดคิด หยุดทำงานไม่ได้" พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับ Mister Slim ว่าเชื่อในสิ่งที่ตนพูดหรือไม่ จากนั้นมิสเตอร์สลิมก็ได้ตอบกลับมาว่าจะพยายามเชื่อ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• 'นายกฯ' เมินตอบ 'อภิสิทธิ์' ไม่หนุน - 'พลังประชารัฐ' จวกดีแต่พูด