สภาพอากาศร้อนในประเทศไทยช่วงนี้ ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะโรคฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด ที่เกิดจากร่างกายอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อุณหภูมิสูง และได้รับความร้อนมากเกินไป ทำให้สมองเกิดการทำงานผิดปกติในส่วนการควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย ทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ซึ่งโรคนี้นอกจากจะเกิดกับคนได้แล้ว ยังสามารถเกิดกับสัตว์เลี้ยงได้เช่นกัน
ด้านคนบันเทิง ดีเจแมน - พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา และ ใบเตย - สุธีวัน ทวีสิน หรือใบเตย อาร์สยาม แฟนสาว เปิดเผยผ่านอินสตาแกรมว่า ทั้งคู่ต้องสูญเสียสุนัขพันธุ์เฟรนช์บลูด็อก ชื่อ ‘เอลวิส’ ไป ด้วยโรคฮีทสโตรก โดยทั้งคู่ได้โพสต์อาลัยน้องหมา และเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนเลี้ยงสุนัข โดยเผยว่า เอลวิส ตายด้วยโรคฮีทสโตรก ซึ่งทั้งคู่ได้พาไปโรงพยาบาล และรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูได้ไม่กี่ชั่วโมง น้องก็จากไป เพราะระบบภายในล้มเหลว มีเลือกออกทางปาก จมูก ตา ไม่หยุด และสุดท้ายก็หลับไป
นอกจากนี้ทั้งคู่ยังให้คำแนะนำทิ้งทายสำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์ ว่าควรเปิดแอร์ให้พวกเขา เพราะตอนนี้โรคลมแดดกำลังระบาด
ก่อนหน้านี้ เมื่อ 19 เม.ย. สุนัขของ ตูน บอดี้สแลม และ ก้อย รัชวิน ‘สมคิด’ อายุ 12 ปี ก็ตายด้วยโรคฮีทสโตรก และเป็นพันธุ์ เฟรนช์บูลด็อก เช่นกัน
ฮีทสโตรกในสุนัข
เนื่องจากสุนัขไม่ได้ขับเหงื่อทางร่างกายเหมือนกับคน แต่จะระบายความร้อนผ่านการหายใจ หากสุนัขอยู่ในบริเวณที่มีการถ่ายเทความร้อนได้ไม่รวดเร็วพอ ก็จะทำให้เป็นฮีทสโตรกได้ เพราะปกติแล้วอุณหภูมิร่างกายของสุนัขจะอยู่ที่ประมาณ 38-39 องศาเซลเซียส ซึ่งถ้าอุณหภูมิถึง 40 องศาเซลเซียส ก็จะแสดงอาการของโรคฮีทสโตรกให้เห็น และจะเริ่มเป็นอันตรายกับตับ ไต หัวใจ รวมถึงสมอง
สามารถสังเกตอาการของสุนัขได้จาก การที่สุนัขแลบลิ้นออกมามากจนผิดปกติ มีอาการเหนื่อย หอบ หายใจลำบาก กระหายน้ำรุนแรง น้ำลายเหนียวหนืด เหงือกและลิ้นมีสีแดงเข้ม มีอาการเซ สับสนมึนงง ชัก อาเจียนบ่อย ท้องเสียฉับพลัน นอนนิ่งเกร็งขาทั้ง 4 ข้าง ตามตัวมีอุณหภูมิสูง อีกทั้งอาจเลือดกำเดาไหล หรือชักร่วมด้วย หากอาการรุนแรงก็อาจถึงตายได้
วิธีดูแลสุนัขเมื่อมีอาการฮีทสโตรก ให้นำสุนัขออกจากบริเวณที่มีความร้อนสูง และนำไปอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทดี ควรให้สุนัขกินน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องทีละน้อย หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าเย็นห่มตัวสุนัขทิ้งไว้ แต่สามารถเช็ดตัวได้ รวมถึงหลีกเลี่ยงการแช่น้ำ เพราะทำให้อุณหภูมิในร่างกายของสุนัขลดลงเร็วเกินไป แต่สามารถค่อยๆ ราดน้ำบนตัวสุนัขได้ และหากเป็นไปได้ควรพาไปพบสัตวแพทย์