นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมด้วยสมาชิกพรรคคนอื่นๆ รวมตัวกันที่สกายวอล์ค สี่แยกปทุมวัน ช่วงเย็นวันนี้ (14 ธ.ค.2562) เพื่อชุมนุมระยะสั้น หรือ 'แฟลชม็อบ' ภายใต้กิจกรรมชื่อ "เมื่อเสียงที่พวกเราเลือกเข้าสภาไม่มีค่า ได้เวลาประชาชนออกมาส่งเสียงด้วยตัวเอง" โดยมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศเกาะติดรายงานข่าวเป็นจำนวนมาก
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานข่าวว่า แฟลชม็อบครั้งนี้ถือเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่สุดในกรุงเทพฯ ในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยประเมินว่า มีผู้เข้าร่วมชุมนุมหลายพันคน (Thousands join biggest protest for years in Thai capital) แต่ไม่ได้ระบุตัวเลขที่ชัดเจน ทั้งยังรายงานคำประกาศของนายธนาธรที่มีต่อผู้ร่วมชุมนุม โดยระบุว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น และคาดว่าต่อจากนี้จะมีผู้เข้าร่วมการชุมนุมเพิ่มขึ้น
ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพี/ซีเอ็นเอ รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของฝั่งตำรวจ ระบุว่ามีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ราว 150 นายคอยดูแลรักษาความสงบรอบสถานที่ชุมนุม พร้อมยืนยันว่า ถ้าไม่มีกิจกรรมใดเข้าข่ายละเมิดกฎหมาย การชุมนุมก็สามารถดำเนินต่อไปได้
เอเอฟพีระบุว่า พรรคอนาคตใหม่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาได้ราว 2 ปี แต่ได้รับคะแนนเสียงกว่า 6 ล้านเสียงในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม นายธนาธรและสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ ต้องเผชิญกับการกล่าวหาและกระบวนการไต่สวนทางกฎหมายหลายกรณี และการชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติส่งเรื่องศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ กรณีกู้ยืมเงินจากนายธนาธร จำนวน 191 ล้านบาท
ทั้งนี้ เอเอฟพีรายงานด้วยว่า กระบวนการยุติธรรมเป็นกลไกหนึ่งที่สกัดการเคลื่อนไหวของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามพรรครัฐบาลซึ่งมีที่มาจากคณะรัฐประหาร
ส่วนสำนักข่าวบลูมเบิร์กระบุว่า พรรคอนาคตใหม่อาจถูกศาลวินิจฉัยให้ยุบพรรค และนายธนาธรตระหนักถึงเรื่องนี้ และเขาระบุว่า พร้อมที่จะสู้ต่อในทุกวิถีทาง
ด้าน สถาบันทิศทางไทย-Thai Move Institute ได้แชร์ข้อมูลจากเพจ ปอกเปลือก ที่ระบุว่า มีคนมาม็อบของอนาคตใหม่แค่ 800 คนเท่านั้น โดยระบุข้อความประกอบว่า "ข้อมูล-ข้อเท็จจริงที่คนไทยต้องรู้เท่าทัน ไม่ให้เกิดการเผชิญหน้าสู่ความขัดแย้ง ประชาชนอยากอยู่อย่างสงบ"
สำหรับผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย และคณาจารย์สถาบันทิศทางไทย ปรากฎรายชื่อหลายราย ตัวอย่างเช่น 1.สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม 2.ดร.สุวินัย ภรณวลัย 3.นายชูชาติ ศรีแสง 4.พลเอก สมเจตน์ บุญถนอม 5.นายเดช พุ่มคชา 6.นายฉาย บุญนาค 7.นายธงชัย สุวรรณวิหค 8.นายสาวิทย์ แก้วหวาน 9.ดร.เสรี วงศ์มณฑา เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: