ที่ สำนักงาน ป.ป.ช. ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์เดินทางเข้ายื่นหลักฐานประกอบคำให้การต่อผู้ช่วยเลขาธิการ ป.ป.ช. สืบเนื่องจากวานนี้ (9 พ.ค.) สนธิ ลิ้มทองกุล และ ปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ อดีตโฆษกคณะกรรมการการสื่อสารและประชาสัมพันธ์การใช้กัญชา กระทรวงสาธารณสุข ยื่นเอกสารถึง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบที่ดินและสวนของ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ย่านสุขุมวิท ว่าที่ดินกลายเป็นที่ดินสาธารณสมบัติไปแล้วหรือไม่ โดย ชูวิทย์ ระบุว่า ตอนนี้ตนเองโดนถล่มในโค้งสุดท้าย แต่ไม่กังวลเพราะตนเองของแข็ง
ชูวิทย์ กล่าวว่า เรื่องที่ดินของตัวเอง ยืนยันว่าไม่ได้ขอมาฟรี แต่ซื้อมาในราคา 500 ล้านบาท และนำมาสร้างเป็นบาร์เบียร์แต่ภายหลังถูกรื้อถอนจนต้องต่อสู้คดีและติดคุก จึงเห็นควรว่า อยากให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นสวนสาธารณะโดยตั้งชื่อว่า “สวนชูวิทย์” ตามชื่อของตัวเอง เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์และมีเจตนาที่ดีจึงสร้างสวนนี้ขึ้นมา
พร้อมย้ำด้วยว่า ตนเองเสียภาษีที่ดินถูกต้องครบถ้วนทุกปี รวมถึงค่าน้ำ ค่าไฟ อีกทั้งมีบ้านอยู่ภายในพร้อมบ้านเลขที่ด้วย ซึ่งคนในพื้นที่คลองเตยและเจ้าหน้าที่ กทม.ทุกคนรู้ดี และวันนี้ที่ออกมาพูดเพราะถูกผู้ไม่หวังดีจ้องที่จะถล่มตัวเองในโค้งสุดท้าย ยืนยันว่าไม่ได้ยกที่ดินให้เป็นของสาธารณะ ที่ดินยังเป็นชื่อของตัวเองอยู่ แต่ให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์จากที่ดินส่วนนี้ มีเวลาเปิด-ปิดชัดเจน มีรั้วรอบขอบชิด
ชูวิทย์ ยังถามกลับ สนธิ ด้วยว่า แก่จนจะลงโลงอยู่แล้วเคยตรวจสอบตัวเองบางหรือไม่ และเคยทำอะไรให้กับสังคมบ้าง ติดคุกมานานถึง 20 ปี ก็เพราะตนเองโกงจริง การที่ สนธิ มาร้องก็เพราะอยากทำลายชื่อเสียงของ ชูวิทย์
นอกจากนี้ ชูวิทย์ เปิดเผยกำหนดการตารางงานของตนเองตลอดสัปดาห์นี้ ระบุว่า พรุ่งนี้ (11 พ.ค.) เวลา 17:00 น. จะไปวิ่งต่อต้านกัญชาเสรีที่สวนลุมพินี
ส่วนวันศุกร์ที่ 12 พ.ค. เวลา 09:00 น. จะจัดเวทีดีเบตคุยเรื่องกัญชาเสรี ที่ศูนย์ต่อต้านกัญชาเสรีของตัวเอง ร่วมกับ นายแพทย์สมิทธิ์ ศรีสนธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล และเครือข่ายแพทย์สมาคมอีก 50 คน โดยขอเชิญ สนธิ และ ปานเทพ ถ้าเก่งจริงให้ไปร่วมเวทีดีเบตด้วยเลย แต่คิดว่าคงไม่กล้า นอกจากนี้ ในช่วงเย็น พรรคภูมิใจไทย รวมถึงหลายพรรคการเมืองจัดเวทีปราศรัยใหญ่ ตนก็จะจัดปราศรัยเหมือนกัน แต่จะเป็นการปราศรัยเคลื่อนที่โดยใช้จักรยาน
ในตอนท้าย ชูวิทย์ บอกด้วยว่า วันอาทิตย์ที่ 14 พ.ค. นี้ อยากให้สังคมตั้งใจและจับตามองการเลือกตั้งในครั้งนี้ให้ดีเพราะเป็นการโกงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ โดยพื้นที่ที่ต้องจับตามองคือ จ.ชลบุรี และ จ.ปทุมธานี มีการแจกจ่ายเงินที่ได้มาจากการโกงก่อนหน้านี้ ซึ่งตนเองมีหลักฐานครบ ถึงขั้น กกต.ประจำหน่วยเลือกตั้งส่งเอกสารหลักฐานมาให้ เชื่อว่าจะเกิดการโกงเป็นดาวกระจายแน่นอน