ที่รัฐสภา (เกียกกาย) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเรื่องด่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขออนุญาตสภาผู้แทนราษฎรเพื่อเรียกตัว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ น.ส.พรรณิการ์ วานิช และนายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ไปทำการสอบสวนในคดีอาญา ในระหว่างสมัยประชุม ตามมาตรา 125 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จากการชุมนุมแฟลชม็อบ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2562 ที่สกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน 

ทั้งนี้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎีรได้มีมติ 368 เสียงไม่อนุญาตให้ส่งตัว 3 ส.ส.ไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อดำเนินคดีอาญาในระหว่างสมัยประชุม ขณะที่งดออกเสียงมี 8 เสียง

โดยนายปิยบุตร กล่าวว่า การชุมนุมเป็นเสรีภาพที่รับรองไว้ตามรัฐธรรมนูญ เป็นเสรีภาพที่สำคัญอย่างยิ่งในระบอบประชาธิปไตย แต่การชุมนุมที่สกายวอร์คครั้งนี้ ถูกเจ้าหน้าที่กล่าวโทษว่าเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีพี่น้องประชาชนถูกดำเนินคดีจำนวนมาก ตนยืนยันว่า การบังคับใช้ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ต้องใช้ไปในทิศทางที่เป็นคุณต่อการใช้เสรีภาพการชุมนุม ไม่ใช่ใช้ไปจนกลายเป็น พ.ร.บ.สกัดกั้น การชุมนุม หรือ พ.ร.บ.ห้ามชุมนุมสาธารณะ และการใช้กฎหมายนี้ต้องใช้อย่างเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ใช่นำกระบวนการทางกฎหมาย การดำเนินคดี เป็นเครื่องมือสกัดกั้นเสรีภาพ หรือตั้งข้อกล่าวหาจนเป็นชนักปักหลัง จนคนกลัว ไม่กล้าชุมนุมที่จะใช้เสรีภาพเพราะจะถูกดำเนินคดี 

นายปิยบุตร กล่าวว่า ตนทราบดีว่าความคุ้มกันเป็นสิ่งที่รัฐธรรมนูญมอบให้กับสมาชิกรัฐสภา เป็นเรื่องสำคัญป้องกันการกลั่นแกล้งและในทางปฏิบัติก็ไม่เคยอนุญาตให้กับสมาชิกในการไปถูกดำเนินคดี ตามกฎหมายรัฐธรมนูญ ความคุ้นกันมอบให้กับตำแหน่ง มิใช่ของส่วนบุคคล ซึ่งการที่ ส.ส.จะลุกขึ้นมาสละ ซึ่งจะสละได้ก็คือการลาออก อย่างไรก็ตามความคุ้มกันจะเอามาใช้ไม่ได้ ถ้าสภาแห่งนี้มีมติให้ส่งตัวไปหรือมีมติเป็นอย่างอื่นตนขอขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่อภิปรายยืนยันหลักการเรื่องความคุ้มกัน และธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา แต่ขอยืนยันว่าตนและเพื่อนสมาชิกคือ นายพิธา น.ส.พรรณิการ์ เรายืนยันด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าพร้อมไปรายงานตัว และพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนต่อไป 

"เพราะเราเชื่อมั่นในเสรีภาพการชุมนุมตามที่รัฐธรรมนูญรับรอง และเราพร้อมจะเดินเคียงข้างกับประชาชนจำนวนมากที่ออกมาชุมนุมแสดงความไม่พอใจต่อความอยุติธรรม เราพร้อมถูกดำเนินคดี สืบสวน สอบสวน เคียงข้างประชาชนจำนวนมากที่ถูกดำเนินคดีอยู่ และเขาปราศจากความคุ้มกัน เพราะเขาไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ขอบคุณในน้ำใจไมตรีสมาชิกทุกท่าน แต่ขอยืนยันความบริสุทธิ์ใจ และเจตจำนงของเราทั้ง 3 คนไว้ในสภาแห่งนี้" นายปิยบุตร กล่าว 

ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรทำเรื่องที่สำคัญมากว่าในทางกลับกันหากพบว่าอีกฝ่ายชุมนุมเหมือนกันกับไม่ถูกดำเนินการ ที่ผ่านมามีการปล่อยให้ ส.ส.ที่มีหมายจับเข้ามานั่งในสภาด้วย ดังนั้น คดีนี้สภาไม่ควรบรรจุวาระนี้เข้ามาเพราะเสียเวลาของสภา