วันที่ 8 พ.ย. 2563 สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ ต่อกรณี “อยู่อย่างไร? ให้มีความสุขในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง” จำนวนทั้งสิ้น 1,374 คน ระหว่างวันที่ 1-6 พ.ย. เพื่อสะท้อนความคิดเห็นกรณีภาวะเศรษฐกิจถดถอย จนกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนที่ต้องดิ้นรนทำมาหากินเพื่อให้ตนเองและครอบครัวอยู่รอด การใช้ชีวิตให้มีความสุขในสภาวะเช่นนี้จึงเป็นเรื่องที่ยากลำบากอย่างยิ่ง สรุปผลได้ ดังนี้
1.ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มีผลทำให้ความสุขของประชาชนเพิ่มขึ้นหรือลดลง
2.ปัจจัยอะไร ที่ส่งผลต่อความสุขของประชาชน
3.ประชาชนมีวิธีสร้างความสุขให้ตนเองในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองได้อย่างไร
4.มาตรการใดของภาครัฐที่จะช่วยให้ประชาชนมีความสุขมากขึ้น
พรพรรณ บัวทอง นักวิจัยสวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า จากผลสำรวจพบว่าความสุขของประชาชนขึ้นอยู่กับปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ หากเศรษฐกิจดีประชาชนก็จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข รัฐบาลจึงมีหน้าที่สำคัญในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย หากประชาชนยังต้องลดและควบคุมค่าใช้จ่ายเพื่อให้ชีวิตดำเนินไปได้อย่างมีความสุข นั่นสะท้อนให้เห็นว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาคุณภาพชีวิตของรัฐบาลนั้นยังไม่ประสบความสำเร็จ
ดร.ศิริ ชะระอ่ำ นักเศรษฐศาสตร์การศึกษา คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า ผลการสำรวจยังระบุชัดว่ามาตรการภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการลดค่าใช้จ่ายประจำของครัวเรือนแบบตรงไปตรงมา เช่น การลดค่าสาธารณูปโภค การพักชำระหนี้เงินกู้ประเภทต่างๆ ส่งผลบวกต่อความรู้สึกของประชาชนเป็นอย่างมาก
สามารถสรุปได้ว่า ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นปัจจุบัน มาตรการภาครัฐระยะสั้นที่สร้างการรับรู้ถึงความตั้งใจช่วยเหลือประชาชนในเรื่องค่าครองชีพนั้น มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจมหภาคด้วยการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ (Mega Projects) ได้อย่างน่าสนใจ