บรรยากาศที่รัฐสภาใหม่ เกียกกาย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเดินทางมารายงานตัว 385 คน จากนั้นจะเดินทางต่อไปกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภา ส่วนสมาชิกวุฒิสภา ขึ้นรถที่อาคารสุขประพฤติ ก่อนจะเดินทางไปที่กระทรวงการต่างประเทศเช่นกัน ยกเว้น ส.ส. 115 คนจากพรรคพลังประชารัฐที่ทีเจ้าหน้าที่จากรัฐสภาไปรับลงทะเบียนที่พรรคและเดินทางไปกระทรวงการต่างประเทศเอง
ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แต่งชุดขาวปกติมาลงทะเบียน พร้อมด้วยนายปิยบุตร แสงกนกกุลและนางสาวพรรณิการ์ วาณิช โฆษกพรรค และ ส.ส. พรรคอนาคตใหม่ รวมทั้ง ส.ส. LGBTQ ที่แต่งกายตามเพศสภาพ ได้แก่ ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ เพศกำเนิดชาย แต่งกายตามเพศสภาพชาย, ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ เพศกำเนิดชาย แต่งกายตามเพศสภาพหญิง, ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ เพศกำเนิดหญิง แต่งกายตามเพศสภาพชายและ กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส. เขต 7 จ.ชลบุรี เพศกำเนิดหญิง แต่งกายตามเพศสภาพชาย
นายธนาธรยืนยันว่าตนยังเป็น ส.ส. อยู่ และรัฐพิธียังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ และเป็นไปตามที่นายวิษณุกล่าว และจะต้องรอการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ว่าจะเข้าร่วมการประชุม ส.ส. ในวันพรุ่งนี้ได้หรือไม่ และยืนยันว่าพรรคอนาคตใหม่ไม่มีแตกแถว สมาชิกพรรคทุกคนหนักแน่นมาทำงานด้วยอุดมการณ์ ส่วนการพูดคุยระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ยังดำเนินอยู่
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายชวน หลีกภัย, นายบัญญัติ บรรทัดฐาน, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ นำ ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ทั้งแบบบัญชีรายชื่อ และแบบแบ่งเขตเดินทางมาเตรียมความพร้อมก่อนเข้าร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภานัดแรกในเวลา 15.00 น. ที่กระทรวงการต่างประเทศ รวมทั้งนายวราวุธ ศิลปอาชา ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วย ส.ส. พรรคชาติไทยพัฒนา
พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ยืนยันว่าเสียงในฝ่ายประชาธิปไตยยังคงแข็งแกร่ง แม้จะมีท่าทีจากพรรคเศรษฐกิจใหม่ อาจสลับขั้ว ซึ่งเสียงจะหายไปจำนวน 6 ที่นั่งหากรวมชื่อ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ จะทำให้ฝ่ายประชาธิปไตยเหลือ 239 เสียง ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่ยังมีพลัง และจากนี้คงต้องรอท่าทีจากพรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งได้พูดคุยไปแล้วแต่ยังไม่ได้ตอบรับอย่างชัดเจน แม้จะมีข้อเสนอที่ยก ส.ส.ให้ไปบริหารจัดการก็ตาม ส่วนการโหวตเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรส.ส. ในพรรคเสรีรวมไทย ทั้งหมดจะสนับสนุนตัวแทนที่มาจากฝ่ายประชาธิปไตย แต่จะเป็นใครต้องรอดูความชัดเจน อีกครั้ง
ด้านนายไพจิต ศรีวรขานสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนคร พนมพรรคเพื่อไทย ดีใจที่เป็นหนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อไทย นายไพจิต เห็นว่าบุคคลที่สมควรได้รับเลือกให้เป็นประธานสภาฯจะต้องเป็นไปตามเจตจำนงของประชาชน และเห็นว่าการชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร จะต้องโหวตแข่งขันตามประเพณีปฏิบัติ และไม่ควรมีล็อบบี้โหวต เพื่อให้ผล ของตำแหน่งประธานสภาเป็นไปตามที่ต้องการ ในส่วนของ ความชัดเจน บุคคลที่จะถูกเสนอชื่อให้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเพื่อไทยจะมีการพูดคุยอีกครั้งเพื่อหารือถึงความชัดเจน ภายในเย็นวันนี้
ขณะที่นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ได้เดินทางมาถึงอาคารรัฐสภาใหม่ ให้สัมภาษณ์ ปฏิเสธกระแสข่าวว่า พรรคจะไปเข้าไปเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ โดยยืนยันยังคงจับมือกับพรรคฝ่ายประชาธิปไตย และพรรคไม่มีงูเห่า
ส่วนนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกระแสที่พรรคเศรษฐกิจใหม่จะย้ายไปร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ โดยตอบว่าจะแถลงข่าวเย็นนี้ 17.00 น. ที่รัฐสภาใหม่ หลังจากนั้นเดินไปขึ้นรถเพื่อไทยและหยอกล้อกับ ส.ส. พรรค พร้อมทั้งโบกมือทักทายผู้สื่อข่าวที่รออยู่ด้านนอกรถ โดยไม่ขึ้นรถของพรรคเศรษฐกิจใหม่ คันที่ 10 ที่จอดรออยู่
ส่วนนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ เดินทางมาถึงพร้อมให้สัมภาษณ์ว่า การที่ตนจะยกมือให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะต้องการผ่าทางตันให้ประเทศเดินหน้า แต่ในส่วนการบริหารราชการแผ่นดินนั้นจะต้องมองภาพรวมว่าอะไรถูกหรืออะไรผิด เพราะฉะนั้นอุดมการณ์ในการตรวจสอบการทุจริตของตนยังมั่นคงเหมือนเดิม ไม่เกรงกลัวน่าอินทร์หน้าพรหม มีอะไรก็พูดตรงตรงไม่อ้อมค้อม
เมื่อถามว่า การที่เข้าไปร่วมกับพรรครัฐบาลจะทำให้มีผลกระทบต่อการตรวจสอบการทุจริตที่เคยดำเนินการไว้หรือไม่ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ยาก การตรวจสอบภายในจะต้องพูดคุยด้วยเหตุและผล แต่หากพวกมากลากไป ตนก็ไม่เอาด้วย พร้อมเดินหน้าอภิปรายในสภาฯ โดยที่ไม่สนว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคไหน เพราะตอนมองอย่างเดียวว่าเป็นเรื่องที่ถูกหรือผิด แล้วจะให้ตนไปพายเรือให้โจรนั้นหรอ
ทั้งนี้ไม่หวั่นใจกับกระแสการล่ารายชื่อถอน ถือว่าเป็นการรับน้อง และไม่เกรงกลัวหากมี ส.ส. คนใดแสดงความไม่พอใจและต่อต้านตนในโลกโซเชียล ตนคงไม่ต้องทำใจอะไร เพราะถือว่าเป็น ส.ส. ด้วยกัน มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน และเมื่อนายมงคลกิตติ์ ขอจับมือกับนายวัน อยู่บำรุง ส.ส. พรรคเพื่อไทยที่มารายงานตัว ก่อนที่นายวันตอบกลับว่า "ไม่ต้องจับ"
ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยและ ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พร้อมด้วยทีม ส.ส. พรรคภูมิใจไทย ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่มาดักรออยู่ชั้น 1 โดยอ้างว่าแต่งกายผิด ซึ่งจะเห็นได้ว่าอินทนูที่ติดอยู่บนบ่าของรัฐมนตรีไม่ใช่ของ ส.ส.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :