นลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยถึงการหารือกับคณะผู้แทนรัฐสภาสหราชอาณาจักร นำโดยเซอร์ เกรแฮม เบรดี้ ประธานกลุ่มมิตรภาพรัฐสภาสหราชอาณาจักร-ไทย ซึ่งเป็นการต่อยอดหลังจากที่ทางคณะได้เข้าพบนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ว่า สหราชอาณาจักรให้ความสนใจเรื่องการส่งเสริมธุรกิจ SMEs โดยได้ซักถามถึงกฎหมายการอำนวยความสะดวกและสนับสนุน SMEs ของไทย รวมทั้งข้อดีของการจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ที่มีต่อผู้ประกอบการกลุ่มนี้ ซึ่งไทยถือว่าการจัดทำ FTA กับสหราชอาณาจักรเป็นเป้าหมายสำคัญ และสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ต้องการขยายการค้าการลงทุนกับประเทศคู่ค้าสำคัญ โดยผลการศึกษาเรื่องการจัดทำ FTA ไทย-สหราชอาณาจักรเมื่อปี 2564 พบว่า จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวประมาณ 0.04 - 0.07% และการส่งออกสินค้าของไทยจะเพิ่มขึ้นประมาณ 777 - 1,659 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และจากการรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนของทั้ง 2 ประเทศก็สนับสนุนให้เกิดผลสำเร็จโดยเร็ว

โดยระหว่างนี้ไทยและสหราชอาณาจักร มีการจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้าเฉพาะสาขา (Enhanced Trade Partnership) เช่น การท่องเที่ยว การศึกษา การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ เพื่อต่อยอดไปสู่การจัดทำ FTA ระหว่างกันต่อไป ส่วนด้านการท่องเที่ยวนั้น ไทยคาดหวังว่าปีนี้นักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยมากกว่า 700,000 คน และเตรียมจะผลักดันเที่ยวบินตรงกรุงเทพฯ - แมนเชสเตอร์ให้ได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 หรือ 4 ของปีหน้า

นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังมีแนวทางความร่วมมือในด้านอื่นอีก เช่น การส่งออกสินค้าเกษตรของไทยที่ไม่ติดข้อห้ามหรือข้อยกเว้นของสหราชอาณาจักรเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ การจัดตั้งหลักสูตรร่วมระดับอุดมศึกษาโดยผู้เรียนจะได้รับปริญญา 2 ใบ จากมหาวิทยาลัย 2 ประเทศ และข้อยกเว้นบางประการเกี่ยวกับภาษีรายได้หรือภาษีมรดกของนักลงทุนต่างประเทศ เพื่อลดอุปสรรคในการลงทุน เป็นต้น ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรได้เชิญผู้แทนการค้าไทยให้เดินทางไปเยือนสหราชอาณาจักรเพื่อยกระดับความสัมพันธ์ด้านการค้าการลงทุนในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย