ดร. นลินี ทวีสิน ประธานผู้แทนการค้าไทย เผยตนเตรียมนำคณะนักธุรกิจไทยเข้าร่วมงาน SelectUSA Investment Summit 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-14 พฤษภาคม 2568 ณ Gaylord National Resort & Convention Center, National Harbor, Maryland, สหรัฐอเมริกา ซึ่ง SelectUSA Investment Summit ถือเป็นเวทีสำคัญระดับโลกที่จัดขึ้นโดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ (FDI) ไปยังสหรัฐอเมริกา
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม เวลา 11.00 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล ดร. นลินี ทวีสิน ได้รับฟังการบรรยายสรุป (Briefing) จากทีมฝ่ายพาณิชย์ของสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เกี่ยวกับงาน SelectUSA Investment Summit โดยงานดังกล่าวเป็นงานที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และสามารถดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลก โดยในปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 5,000 คน และนำไปสู่การลงทุนกว่า 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดจนสร้างงานมากกว่า 85,000 ตำแหน่งในสหรัฐอเมริกา
ประธานผู้แทนการค้าไทย เสริมว่า งาน SelectUSA Investment Summit ในปีนี้ เป็นครั้งที่ 11 โดยเน้นในหัวข้ออาหารและเครื่องดื่ม เทคโนโลยี พลังงานเทคโนโลยีการเกษตร โดยการเข้าร่วมจะเป็นก้าวสำคัญของนักธุรกิจไทยในการสร้างเครือข่ายกับผู้ลงทุนทั่วโลก พร้อมสำรวจโอกาสในการขยายธุรกิจไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนด้านข้อมูล การให้คำปรึกษา และสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ลงทุนจากต่างประเทศ นอกจากนี้ ภายในงาน ผู้ประกอบการจะได้พบปะกับตัวแทนระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อรับทราบถึงแนวโน้มและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการค้า การลงทุน หารือ ถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ กับตัวแทนจากรัฐ (State) ต่าง ๆ ของสหรัฐฯ และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างๆ พร้อมเข้าร่วมกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรม Spin Off ซึ่งเป็นการสัมมนาในเชิงลึกเกี่ยวกับการลงทุนในอุตสาหกรรมเฉพาะ จัดโดยตัวแทนจาก 14 รัฐ
ทั้งนี้ ในปี 2567 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย มีมูลค่าการค้ารวม 74,484.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกสำคัญของไทยคือ คอมพิวเตอร์ ผลิตภัณฑ์ยางอัญมณี รถยนต์ และเครื่องปรับอากาศ ในขณะที่ สินค้านำเข้าสำคัญจากสหรัฐฯ คือ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกล และเคมีภัณฑ์ สำหรับการลงทุนในปัจจุบันมีการลงทุนโดยตรงจากประเทศไทย (FDI) ในสหรัฐอเมริกา มีมูลค่ากว่า 3,000 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สนับสนุนการจ้างแรงงานในสหรัฐฯ ประมาณ 49,000 ตำแหน่ง สาขาอุตสาหกรรมที่เข้าไปลงทุน ได้แก่ อุตสาหกรรมพลาสติก อุตสาหกรรมเคมี พลังงาน ซอฟต์แวร์และบริการสารสนเทศ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มและส่วนประกอบยานยนต์