รัฐบาลเยอรมนีกำลังพิจารณาเพิ่มมาตรการด้านความมั่นคงให้รัดกุมขึ้น เพื่อกีดกันไม่ให้บริษัทหัวเว่ย บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนใช้เครือข่ายโทรศัพท์ 5G ได้ แม้ก่อนหน้านี้ กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีจะแสดงความเห็นคัดค้านการแบนบริษัทใดๆ จากการใช้เครือข่าย 5G ตามคำเตือนของรัฐบาลสหรัฐฯ
สำนักข่าวฮันเดลสบลาตต์ สำนักข่าวธุรกิจของเยอรมนีรรายงานว่า แม้รัฐบาลนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีจะยังไม่มีมาตรการเป็นรูปเป็นร่างในการกีดกันหัวเว่ย แต่มีการหารือกันอย่างจริงจังว่าจะต้องกำหนดมาตรฐานด้านความมั่นคงที่หัวเว่ยไม่สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังพิจารณาว่าอาจมีการแก้ไขกฎหมายโทรคมนาคมเป็นมาตรการสุดท้ายสำหรับการกีดกันหัวเว่ยอย่างมีประสิทธิภาพ
บริษัทหัวเว่ยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่หลายประเทศทั่วโลกตั้งข้อกังขาว่า บริษัทหัวเว่ยอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอดแนมผ่านเทคโนโลยีของตัวเอง โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลออสเตรเลียแบนหัวเว่ยจากการให้บริการเทคโนโลยี 5G ส่วนนิวซีแลนด์ก็กัดกันไม่ให้หัวเว่ยยื่นคำร้องขอใช้อุปกรณ์โทรคมนาคม ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคัง ขณะที่อังกฤษ สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก็แสดงความกังวลเรื่องนี้เช่นกัน
สหรัฐฯ กำลังสืบสวนสอบสวนหัวเว่ย หลังกล่าวหาว่าหัวเว่ยจารกรรมความลับทางการค้าจากบริษัทอเมริกัน และละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรด้วยการโกหกเกี่ยวกับธุรกิจของหัวเว่ยในอิหร่าน โดยเมิ่งหว่านโจว หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารทางการเงิน (CFO) ของหัวเว่ยเพิ่งถูกจับกุมที่สนามบินแวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดเพิ่งประกาศระงับการรับเงินบริจาคจากหัวเว่ย หลังคนในสังคมกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดกับหัวเว่ย
ที่ผ่านมา นายเหรินเจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ยกล่าวว่า เขารักประเทศจีน และสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ แต่เขาจะไม่ทำอะไรที่เป็นอันตรายกับประเทศอื่น พร้อมยืนยันว่าเขาไม่เคยได้รับคำร้องจากรัฐบาลจีนให้สอดแนมใคร
ที่มา : BBC, Reuters, The Independent
