ต่างประเทศ
ญี่ปุ่นสั่งแขวนคอ 3 นักโทษ หลังประเทศไม่มีการประหารมาตั้งแต่ปี 2019
สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยรายชื่อนักโทษ 3 ราย ที่เพิ่งถูกประหารลงในวันนี้ (21 ธ.ค.) ได้แก่นักโทษ ฟูจิชิโระ ยาซูทากะ วัย 65 ปี จากคดีฆ่าสังหารคนในครอบครัว 7 รายเมื่อ ค.ศ.2004, ทาคาเนซาวะ โทโมอากิ อายุ 54 ปี และ โอโกาวะ มิตซูโนริ อายุ 44 ปี ผู้ที่ศาลชี้ว่ามีความผิดในการฆ่าลูกจ้าง 2 ราย ในร้านปาจิงโกะเมื่อ ค.ศ.2003
การประหาร 3 นักโทษด้วยการแขวนคอในครั้งนี้ของญี่ปุ่น เป็นการประหารชีวิตครั้งแรกหลัง คิชิดะ ฟูมิโอะ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศ โดยการลงโทษประหารชีวิตครั้งล่าสุดของในญี่ปุ่นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ.2019 และก่อนหน้านั้นอีก 15 ปี ที่มีการประหารชีวิต 13 สมาชิกกลุ่มลัทธิวันสิ้นโลก ‘โอมชินริเกียว’ จากปล่อยก๊าซซารินในรถไฟใต้ดิน เมื่อ ค.ศ.1995 จนมีผู้เสียชีวิต 13 ราย และบาดเจ็บอีก 5,500 ราย
ญี่ปุ่นเป็นประเทศพัฒนาแล้วอีกไม่กี่ประเทศบนโลกนี้ ที่ยังคงโทษการประหารชีวิตเอาไว้ ในขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นเองต่อต้านข้อเรียกร้องการยกเลิกโทษประหารจากทางสหภาพยุโรป องค์กรด้านสิทธิมนุษยชน และกลุ่มนักกฎหมายและนักวิชาการในญี่ปุ่นหลายพันคน
รัฐบาลญี่ปุ่นระบุมาเสมอว่า ความเห็นของสาธารณชนในญี่ปุ่น ยังคงให้การสนับสนุนโทษประหารชีวิตอยู่เป็นจำนวนมาก ในขณะที่มีข้อวิพากษ์วิจารณ์บางส่วนว่า นักโทษประหารมักถูกขังเดียวนานหลายปี และถูกแจ้งให้ทราบว่ากำลังจะถูกประหารชีวิตล่วงหน้าเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น โดยรายงานของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อ ค.ศ.2009 ระบุว่า โทษประหารของญี่ปุ่นเป็นเรื่องที่ “โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และเสื่อมทราม”
“ไม่ว่าจะเก็บระบบการตัดสินโทษประหารชีวิตหรือไม่ ย่อมเป็นประเด็นสำคัญที่ควรพิจารณาต่อพื้นฐานของระบบยุติธรรมทางอาญาของญี่ปุ่น” คิฮาระ เซอิจิ รองเลขาธิการคณะรัฐมนตรีระบุกับผู้สื่อข่าว โดยเขาชี้เพิ่มเติมว่า ญี่ปุ่นยังคงมีนักโทษประหารรอการลงโทษมากกว่า 100 ราย “เนื่องจากอาชญากรรมอันโหดร้ายยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โทษประหารจึงจำเป็นต่อผู้ที่กระทำความผิดอย่างร้ายแรง ดังนั้นมันจึงไม่มีความสมควรอันใดที่จะต้องยกเลิกโทษประหารลง” คิฮาระระบุ
ก่อนหน้านี้ใน ค.ศ.2014 ญี่ปุ่นเคยมีกรณีการปล่อยตัวอดีตนักโทษ ที่ถูกตัดสินให้รับโทษการประหารชีวิตด้วยการแขวนคออย่าง ฮากามาดะ อิวาโอะ ใน ค.ศ.1968 หลังจากเขาถูกจองจำอยู่ในเรือนจำกว่า 45 ปี ด้วยข้อกล่าวหาว่าสังหารประธานบริษัทพร้อมภรรยาและลูกทั้งสอง ก่อนที่ในเวลาต่อมา ศาลพบว่าหลักฐานชี้ผิดต่อฮากามาดะมีไม่เพียงพอ และส่งผลให้ศาลญี่ปุ่นยกฟ้อง ทั้งนี้ ฮากามาดะได้รับเงินชดเชยทั้งสิ้น 22 ล้านเยน (ประมาณ 6.5 ล้านบาท) แต่คดีของฮากามาดะกลับนำมาซึ่งคำถามต่อโทษการประหารในญี่ปุ่นมาจนถึงทุกวันนี้
ที่มา:
