ไม่พบผลการค้นหา
รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยันกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ยังไม่ถึงขั้นลาออก เผย ร.อ.ธรรมนัส มีปัญหา

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงกระแสข่าวการลาออกของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเปิดทางในการปรับโครงสร้างว่า ขณะนี้กำลังพูดคุยกันถึงการลาออก โดยพรุ่งนี้ 28 ตุลาคม จะคุยกันอีกครั้งอย่างเป็นทางการว่า จะปรับแก้อย่างไร ทุกคนต้องหาทางออกร่วมกัน เหตุผลที่ต้องปรับโครงสร้างเพราะรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐต้องเป็นเนื้อเดียวกัน เดินไปด้วยกัน หากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ไปทางเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พรรคก็ทำงานยาก 

เมื่อถามว่ากรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐที่จะลาออกขณะนี้เกินกึ่งหนึ่งหรือยัง ชัยวุฒิระบุว่า ยังไม่ถึง จริงๆ ยังไม่ถึงขั้นลาออก เป็นการพูดคุย ยังไม่มีการลาออก หากลาออกจะแถลงข่าว ผู้สื่อถามว่า การจะปรับโครงสร้างพรรคครั้งนี้ เพราะ มองว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค มีปัญหาใช่หรือไม่ ชัยวุฒิ ถามสื่อมวลชนกลับว่า “แล้วคุณคิดว่ามีปัญหาหรือไม่ ขอสื่อมวลชนดูกันเอง ว่าในอดีตเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง” เมื่อถามย้ำว่าส่วนตัวมองว่า ร.อ.ธรรมนัส มีปัญหาหรือไม่ ชัยวุฒิตอบว่า “ผมคิดว่ามีนะ ไม่เช่นนั้นไม่มีการพูดคุยกันเพื่อจะปรับโครงสร้างแต่ไม่ขอพูดในรายละเอียดเพราะเชื่อว่าประชาชนและสื่อมวลชนรู้อยู่แล้วว่าคืออะไร ขอให้เดินไปข้างหน้า อย่าพูดถึงอดีต” 

ส่วนกรณีที่มี 6 รัฐมนตรีในพรรคพลังประชารัฐ ไปพบ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมนั้น กำลังถูก ศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. สอบ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าครอบงำหรือชี้นำพรรค ชัยวุฒิระบุว่า เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะนายกรัฐมนตรี กับ รัฐมนตรีคุยกันปกติ หากไม่คุยกันจะบริหารประเทศได้อย่างไร นายกรัฐมนตรีก็ต้องคุยกับ พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นพรรคที่เสนอชื่อ เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อ กำหนดแนวทางการทำงาน เพราะสัปดาห์หน้าเปิดสภา มีกฎหมายสำคัญจะเข้า จะทำงานร่วมกันอย่างไรในสภา หากนายกรัฐมนตรีไม่มาคุยกับ ส.ส. หรือ รัฐมนตรีก็ทำงานไม่ได้ เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ คุยประจำ ไม่ใช่การครอบงำ หากจะครอบงำ ต้องเป็นการโฟนอินมาจากดูไบ  

ส่วนกรณีที่ วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ว่า 6 รัฐมนตรีที่พบ นายกนั้นถือว่าไม่ใช่ส่วนมากในพรรค ชัยวุฒิบอกว่า จะมากจะน้อยไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะทุกคนคือสมาชิกพรรค เชื่อว่าทุกคนหวังดีกับบ้านเมือง สภาราบรื่นไปในทางเดียวกัน