ตัวเลขการติดเชื้อโควิด-19 ในออสเตรเลียกำลังพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย หลังมีการแพร่เชื้อจากผู้ติดเชื้อหลายร้อยรายที่เข้ารับการตรวจหาเชื้อ แต่ผลการตรวจกลับผิดพลkดและแจ้งออกมาว่าพวกเขาไม่ได้ป่วยเป็นโควิด-19
ห้องแล็บ SydPath ของเมืองซิดนีย์ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษ พร้อมระบุว่า พวกเขาทำการตรวจหาเชื้อประชาชนกว่า 886 ราย ผิดพลาดโดยแจ้งว่าผลการตรวจโควิด-19 เป็นลบ ทั้งๆ ที่คนไข้ 886 รายนั้นติดเชื้อโควิด-19
อย่างไรก็ดี ทางห้องแล็บดังกล่าวยืนยันว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นจากในตอนนี้ ออสเตรเลียกำลังเจอกับการระบาดของเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน ทำให้มีผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อจำนวนมากแบบ “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
เมื่อสัปดาห์ก่อนถึงวันคริสต์มาสซึ่งจะมีการรวมตัวกันในบรรดาเพื่อนฝูงและญาติพี่ร้อง มีผู้คนอย่างน้อย 400 ราย ที่ได้รับการยืนยันจาก SydPath ว่าพวกเขาไม่ติดโควิด-19 อย่างไรก็ดี คนทั้ง 400 รายได้รับการแจ้งเตือนในวันรุ่งขึ้นว่า ผลตรวจก่อนหน้านี้มีความผิดพลาด ก่อนที่ในสัปดาห์นี้จะมีการตรวจหาเชื้อผิดพลาดเพิ่มอีก 486 ราย
SydPath ระบุว่า การที่มีผู้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มมากขึ้นจนล้นเกินทำให้เกิด “การประมวลข้อมูลผิดพลาด” โดยเจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจสวอบผู้เข้ารับบริการจำนวนมากจนเกิดความผิดพลาดขึ้น
ทั้งนี้ SydPath จะใช้ระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วย เพื่อลดจำนวนงานที่ถาโถมมายังเจ้าหน้าที่ในการตรวจสวอบ และจะทำให้การตรวจหาเชื้อดำเนินไปได้อย่างสะดวกง่ายดายขึ้น
สเตฟานนี โคลอนนา หนึ่งในผู้ได้รับผลตรวจที่ผิดพลาด เปิดเผยกับสำนักข่าว BBC ว่า เธอรู้สึกกังวลจากผลการตรวจที่ผิดพลาด เพราะมันอาจทำให้เธอแพร่เชื้อไปติดยังสมาชิกครอบครัวของเธอ
ปัจจุบันนี้ นิวเซาท์เวลส์มีการตรวจหาเชื้อประชาชนในรัฐประมาณวันละ 145,000 ราย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อตอบรับกับการระบาดของเชื้อโอไมครอนที่พุ่งสูงขึ้น ทั้งนี้ รัฐบาลท้องถิ่นได้ยกระดับป้องกันโควิด-19 เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมาแล้ว
ที่มา: