ช่วงนี้หน้าฟีดเฟซบุ๊กของใครหลายคนอาจจะได้เห็นภาพของกบตัวน้อยน่ารักไปเที่ยวทะเล เยือนน้ำพุร้อน หรือนอนแบะอยู่กลางทุ่งหญ้ากันไปบ้างแล้ว ซึ่งบางคนอาจจะถามกันไปมาว่านี่เกมอะไร ก่อนที่จะเผลอเล่นกับเขาไปด้วยอีกคนหนึ่ง

เกมนี้มีชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า "ทาบิคาเอรุ" (旅かえる) หรือกบนักเดินทาง ผลงานของบริษัทฮิตพอยท์ เจ้าของเกมวางขนมล่อแมว "เนโกะอัทสึเมะ" ที่ฮิตติดลมบนไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน ส่วนเกมกบเดินทางนี้ แม้จะยังไม่มีเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษให้ใช้ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นปัญหาเท่าไรนัก เพราะแค่เปิดตัวไม่กี่เดือน ก็มาแรงจนกลายเป็นเกมที่ชาวจีนทั้งแผ่นดินดาวน์โหลดมากที่สุดอยู่นานหลายสัปดาห์ เช่นเดียวกับในไทยที่มีผู้โพสต์ภาพพร้อมกับสอนวิธีเล่นต่างๆ จนกลายเป็นกระแสการอวดภาพน้องกบบนหน้าโซเชียลมีเดียไม่แพ้กัน

วิธีการเล่นเกมคือ ผู้เล่นจะเป็นผู้จัดกระเป๋าเตรียมให้กบน้อยเดินทางออกไปเที่ยว คอยเก็บใบโคลเวอร์ไปซื้อไอเท็มต่างๆ เพื่อให้กบไปเที่ยวที่ต่างๆ ได้หลากหลายขึ้น ซึ่งกบจะคอยส่งรูปมาให้ดูและนำของฝากกลับมาให้ หากเตรียมของดีและโชคดี ก็จะได้ภาพสวยๆ จากสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังของญี่ปุ่น หรือภาพน่ารักๆ จากเจ้ากบและผองเพื่อน ถือเป็นความสำเร็จที่ผู้เล่นภูมิใจจนนำมาโพสต์อวดกันอยู่บ่อยๆ

แต่เหตุใดเกมกบที่ดูเหมือนไม่มีอะไรจึงคว้าใจชาวเอเชียได้อย่างอยู่หมัดเช่นนี้?

เพราะน่ารักและคาดเดาไม่ได้

เหตุผลแรกที่มองข้ามไม่ได้คือความน่ารักของเจ้ากบน้อย ที่ดูแล้วเป็นกบหน้าบูด แต่ก็ตัวเล็กกระจ้อยและทำท่าน่าเอ็นดูทั้งอ้าปากกว้างกินข้าว หรือสัปหงกเวลาอ่านหนังสือ ยิ่งกว่านั้นคือภาพไปเที่ยวที่ส่งกลับมาจะทำให้เราได้เห็นอิริยาบถอื่นๆ ร่วมกับเพื่อนๆ แสนน่ารักทั้งผีเสื้อ หนู ปู และมด 

อีกเหตุผลคือการที่ผู้เล่นไม่สามารถควบคุมอะไรเจ้ากบน้อยของตนเองได้เลยว่าจะไปเที่ยวตอนไหน ไปที่ไหน นานเท่าไร ทำได้แค่เพียงจัดกระเป๋าเตรียมอุปกรณ์ที่จำกัดแนวโน้มจุดหมายได้กว้างๆ เท่านั้น การที่คาดเดาไม่ได้ ทำให้ความสนุกอยู่ที่การเฝ้ารอคอยภาพของเจ้ากบว่าไปเที่ยวคราวนี้จะมีภาพสวยๆ ส่งมาไหม ได้ของฝากอะไรบ้าง ฯลฯ โดยเป็นเกมที่สามารถเล่นได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเฝ้าจอตลอดเวลา เพียงเปิดดูระหว่างวันไม่กี่ครั้งก็ได้

มายุโกะ อุเอมูระ เจ้าของไอเดียเกมทาบิคาเอรุ เล่าว่าแรงบันดาลใจของเกมนี้มาจากการที่เธอชอบเที่ยว และความรู้สึกยามที่เฝ้ารอคนที่รักเดินทางกลับมา  

"บางทีเราก็กังวลว่าเราปล่อยให้รอเรากลับมานานเกินไปไหม"  ทีมงานบ.ฮิตพอยท์วัย 26 ปีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์ก "ฉันอยากจะพัฒนาเกมที่ผู้เล่นรักมัน ไม่อยากให้เป็นเกมที่ต้องจดจ่อกับมันมากเกินไป"

ถูกพูดถึงในฐานะ "เกมของคนเหงา-คนโสด"

"มาแรง! "Tabi Kaeru" เกมเลี้ยงกบอินดี้ ที่จะทำให้เรารู้ว่า "รักข้างเดียว" เป็นยังไง..." คือพาดหัวรีวิวเกมเจ้ากบหนีเที่ยวในเว็บไซต์เด็กดี

เช่นเดียวกับผู้เล่นชาวไทยไม่น้อยที่มักบรรยายเกมทาบิคาเอรุว่าเป็นเกมของคนเหงา เนื่องจากผู้เล่นมีหน้าที่เพียงจัดกระเป๋าให้กบ แถมสิ่งที่เตรียมไปให้จะเอาไปใช้จริงๆ หรือเปล่าก็ไม่รู้ ทำให้หลายคนนำไปเปรียบเทียบว่าเป็นเกมของคนรักข้างเดียว ทำดีเท่าไรก็ไม่รู้ว่ากบจะรู้สึกรู้สาหรือไม่ ยิ่งทำให้คนโสดและคนเหงาอยู่แล้วสนใจเกมนี้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงความรักของหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ผู้เล่นไม่น้อยก็เปรียบเทียบประสบการณ์การเล่นว่าคล้ายกับพ่อแม่ดูแลลูกเสียมากกว่า โดยเฉพาะในจีน ซึ่งบีบีซีไทยรายงานคำกล่าวของนสพ.พีเพิลส์ เดลี ที่พูดกับผู้เล่นชาวจีนได้อย่างน่าสนใจว่า "กบที่ออกเดินทาง ก็เหมือนกับทุกคนที่จากบ้านมา... ความรู้สึกของการรอคอยลูกเป็นอย่างไร? โปรดอย่าลืมกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ด้วย กบพเนจรทั้งหลาย"

พักผ่อนจากโลกแห่งความเป็นจริง

เนื่องจากเป็นเกมที่ไม่ต้องเปิดเล่นนาน ไม่ต้องรอผู้เล่นคนอื่นๆ ว่างเพื่อเข้ามาออนไลน์พร้อมกัน ทำให้ทาบิคาเอรุ ได้รับความนิยมอย่างมากทั้งในหมู่วัยเรียนและวัยทำงาน 

อิสระของกบที่นึกอยากจะไปที่ไหนก็ไป เมื่อไรก็ได้ เติมเต็มความต้องการลึกๆ ของมนุษย์เงินเดือนที่มีข้อจำกัดมากมายกว่าจะลาพักร้อนไปเที่ยวได้อย่างสบายใจสักครั้ง เช่นเดียวกับวัยรุ่นที่อาจจะยังไม่มีเงินมากพอจะออกไปท่องโลกแบบกบน้อย (แถมยังเป็นช่วงปิดเทอมพอดี) ประกอบกับภาพสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามของญี่ปุ่น ประเทศท่องเที่ยวยอดฮิตของชาวไทยอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่เกมกบหนีเที่ยวจะประสบความสำเร็จในไทย เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในเอเชีย

เพราะอย่างน้อย การแวะดูภาพชีวิตที่มีความสุขของเจ้ากบระหว่างวัน ก็น่าชื่นใจกว่าเปิดดูแชทไลน์ทวงงานเป็นไหนๆ