ไม่พบผลการค้นหา
นักวิชาการ ชี้การแสดงความเห็นประหารชีวิตนักโทษทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ควรระมัดระวัง ไม่ให้เกิดการแตกแยกเพิ่มขึ้น คำนึงถึงผลกระทบในอนาคตของครอบครัวผู้สูญเสียทั้งสองฝ่าย

ผศ.ดร.หนึ่งหทัย ขอผลกลาง อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักวิชาเทคโนโลยีสังคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี เปิดเผยว่า กรณีข่าวนักโทษที่ถูกประหารชีวิต กำลังเป็นประเด็นถกเถียงอย่างกว้างขวางในสังคมไทย โดยเฉพาะชาวโซเชียล ถือเป็นเรื่องปกติของคนที่ได้รับข้อมูลข่าวสารในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่คนจะอยากเข้าไปมีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี เพื่อไม่ให้ตกขบวนรถไฟแห่งข้อมูลข่าวสาร

แต่การแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมา ที่เห็นได้ชัด คือ ความเห็นแตกแยกออกเป็นสองฝ่าย คือฝ่ายที่เห็นด้วยกับไม่เห็นด้วย บางครั้งการแสดงความคิดเห็นก็ไม่ได้อิงอยู่กับเหตุผลเพียงอย่างเดียว แต่ใส่อารมณ์ส่วนตัวเข้าไปด้วย ส่งผลให้เกิดการใช้ถ้อยคำที่หยาบคาย โจมตีฝ่ายตรงข้ามอย่างสนุกสนาน และมีการลากเอาบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้ามาโจมตีอย่างเสียหาย จากเดิมที่เราไม่ต้องการให้มีการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น

กลายเป็นว่ากรณีนี้มีการละเมิดสิทธิของบุคคลอื่นอย่างกว้างขวาง เมื่อมีการแสดงความคิดเห็นและแชร์ต่อกันเรื่อยๆ ทำให้ความแตกแยกทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จนกลายเป็นปัญหาสังคมที่ยากต่อการแก้ไข ซึ่งการแสดงความคิดเห็นลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ควรระมัดระวังอย่างมาก

ทั้งนี้ การประหารชีวิตนักโทษครั้งนี้ มีทั้งฝ่ายผู้ที่สูญเสียคือ ญาติของผู้ที่ถูกประหารชีวิตและญาติของเหยื่อที่นักโทษประหาร ซึ่งคนกลุ่มนี้น่าเห็นใจมาก เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการทำให้สังคมแตกแยกเลย เพียงแต่ว่าคนอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องดึงไปสร้างเป็นประเด็นความแตกแยกในสังคมไทย

ดังนั้น ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็น หรือแชร์อะไรออกไป ควรที่จะมองถึงผลในภายภาคหน้าด้วย ให้คำนึงถึงสังคมไทยว่าจะได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องที่เราแสดงความคิดเห็นหรือแชร์ออกไป ไม่ใช่เพียงแต่ทำไปด้วยความคึกคะนอง สนุกสนานไปตามๆ กันเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :