ปัจจุบันกลุ่มคนวัยทำงาน1ใน3 ประสบปัญหาโรคอ้วน โดยสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการกินแบบบริโภคนิยม จนทำให้ร่างกายเกิดการสะสมเป็นไขมันจนเป็นโรคอ้วน และนำไปสู่ความเชื่อผิดๆในการลดน้ำหนัก
ถึงเวลาที่คนวัยทำงานต้องใส่ใจสุขภาพ ดูแลร่างกาย ลดอ้วนลดพุง โดยนพ.ฆนัท ครุธกูล คณะแพยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า กลุ่มคนวัยทำงานควรเลือกกินอาหารให้เหมาะกับอาชีพ เช่น ผู้ที่ประกอบอาชีพที่ต้องใช้แรงงาน ควรเลือกกินอาหารที่ให้พลังงานสูงมากกว่าผู้ที่นั่งทำงานเฉยๆอยู่ในออฟฟิศ เพื่อลดการสะสมพลังงานโดยไม่จำเป็น ร่วมกับการออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
นพ.ฆนัท ครุธกูล คณะแพยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
การลดน้ำหนักและการออกกำลังกายต้องทำอย่างถูกต้อง แต่ส่วนใหญ่มักจะลดน้ำหนักด้วยความเชื่อผิดๆ จะเห็นได้จากโปรแกรมลดน้ำหนักที่เผยแพร่ตามโลกโซเชียลนั้น เช่น ซื้อเวย์โปรตีนมากินเอง เพราะเวย์โปรตีนอาจส่งผลเสียกับไตได้ หรือแม้แต่แนะนำให้ลดแป้งก็ไม่ควรทำเพราะจะทำให้เราได้รับพลังงานน้อย
“หลักการกินที่ดีคือ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้กินช้าลง เพราะการกินช้าลง เคี้ยวอาหารช้าๆ จะช่วยให้อิ่มโดยที่ไม่ต้องกินอาหารมากเกินความต้องการ ถือเป็นการจำกัดปริมาณอาหารได้ทางหนึ่ง”นพ.ฆนัท กล่าว
ระหว่างวันควรลดของหวาน เปลี่ยนเป็นผลไม้ที่ให้พลังงานต่ำแทนได้
ส่วนความเชื่อที่ว่า แบ่งมื้ออาหารย่อยๆ จะช่วยลดน้ำหนักได้ นั้น นพ.ฆนัท บอกว่า ยังไม่มีคำยืนยันชัดเจนว่าทำแล้วช่วยลดน้ำหนักจริงได้ไหม เพราะบางคนแบ่งย่อยมื้ออาหารจริง แต่เมื่อหิวกลับเลือกกินอาหารใกล้ตัว เช่น ผลไม้พลังงานสูงๆ หรือน้ำหวาน ทำให้เกิดพลังงานสะสมในร่างกายมากกว่าปกติ
หลักที่ดีในการแบ่งมื้ออาหาร คือ กินน้อยๆ กระจายมื้อเพื่อทำให้ไม่ค่อยหิว เพราะถ้าหิว ตอนที่เรากินจะกินเยอะกว่าปกติ ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า แบ่งมื้ออาหารได้ แต่ต้องควบคุมปริมาณอาหารด้วย
มื้อเย็นที่ไม่ได้ใช้แรงงานเยอะ สามารถเปลี่ยนเป็นเมนูเบาๆอย่างสลัดผักแทนก็ได้
ความเชื่อสุดท้ายคือการอดอาหาร ทำให้สุขภาพดีนั้นยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกัน นพ.ฆนัท กล่าวว่า เป็นความเข้าใจผิดที่เกิดจากคนในโซเชียลแชร์ข้อมูลว่ามีศาสตราจารย์ท่านหนึ่งได้รับรางวัลโนเบลในเรื่องแนะนำการอดอาหาร แต่จริงๆ แล้วการกินอาหารต้องกินให้เหมาะสมกับช่วงเวลาที่ทำกิจกรรม เช่น ถ้าทำงานตอนเช้า เราต้องกินอาหารเช้าให้เยอะขึ้น
ช่วงเย็นเราสามารถลดอาหารให้น้อยลงหรืออาหารที่ให้พลังงานต่ำ อย่าอดอาหารเย็น เพราะอาจส่งผลเสียแทนผลดีเพราะร่างกายจะมีการกระตุ้นหลั่งน้ำย่อยทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้
การเป็นมนุษย์ทำงานที่มีสุขภาพดีนั้นต้องเริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเลิกนิสัยการกินที่ไม่ดี เช่น ไม่หิวแต่กิน หันมากินน้อยลง กินช้าๆ ควบคู่กับการตระหนักว่าเมื่อกินผิดแล้วจะเกิดผลอย่างไร จะทำให้เกิดความระมัดระวังในการกินมากขึ้น บวกกับพยายามปรับสิ่งแวดล้อมเช่น เปลี่ยนจากขนมเค้ก กาแฟ ระหว่างวัน เป็นผลไม้แทน และสุดท้ายต้องสร้างแรงจูงใจในการปรับพฤติกรรมก่อน เพราะหากไม่มีแรงจูงใจสิ่งต่างๆที่หวังไว้ก็จะไม่สำเร็จ