วานนี้ (7 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมปฏิบัติการ ศูนย์ป้องกันการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบของข้าราชการตำรวจ สภ.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.คีรี เกียรติสาร รอง ผ บก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ และ เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน ภ.จว.อุตรดิตถ์ เข้าสอบสวนผู้เสียหายกรณีชาว จ.อุตรดิตถ์ ถูกหลอกให้ทำข้าวกล่อง และ น้ำดื่มส่งให้กับโรงงานแห่งหนึ่งใน จ.พิษณุโลก แต่โรงงานไม่เดินทางมารับของ ทำให้ผู้รับจ้างสูญเงินลงทุนไปเกือบ 1 ล้านบาท
เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 268/2 หมู่ 8 ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ มีนางธนิสร กุยแก้ว อายุ 42 ปี และ นางจอก นุชศรี อายุ 60 ปี สองแม่ลูก เป็นผู้เสียหายและเป็นเหยื่อของการถูกหลอกเรื่องนี้ ส่วนอีก 2 ราย ที่เคยถูกหลอกได้เข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับนางกัญจ์หทัย สุขใส ผู้จ้างทำข้าวกล่อง โดยแบ่งพื้นที่รับเรื่องร้องทุกข์ในคดีนี้ที่คาดว่าอาจจะมีเจ้าทุกข์หลายราย คือที่สถานีตำรวจภูธรวังกะพี้ และสถานีตำรวจภูธรพญาแมน โดยอาศัยพื้นที่ตำบลวังกะพี้เป็นศูนย์กลาง เหตุผลที่ต้องตั้งชุดพนักงานสอบสวนระดับจังหวัด เนื่องจากพื้นที่รับคดีนี้ไม่ไหว
โดย พล.ต.ต.พยูห์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ผู้บังคับบัญชาให้ความสำคัญอย่างมาก พร้อมสั่งกำชับให้ดำเนินการสอบสวน และ ดำเนินการทางคดีให้เรียบร้อยโดยเร็ว ล่าสุด ได้ตั้งทีมของตำรวจภูธรจังหวัดลงไปทำการสอบสวนเรื่องนี้แล้ว และ ทราบแล้วว่าโรงงานแห่งนี้ชื่อโรงงานอะไร มีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการหลอกลวงด้วยหรือไม่ ได้ส่งตำรวจไปทำการสอบสวนโรงงานแล้วเช่นเดียวกัน ส่วนในรายอื่น ๆ ที่ถูกหลอกในลักษณะเดียวกันว่า มีจำนวนทั้งหมดกี่รายและอยู่ที่ไหนบ้าง กำชับให้ชุดสอบสวนลงพื้นที่ทำการสอบสวนทุกราย เพื่อจะได้ดำเนินการทางกฎหมายอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ ได้รับการประสานงานทางโทรศัพท์จาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะเข้ามาร่วมดูแลคดีนี้ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ด้วย แต่จะเดินทางมาร่วมทำการสอบสวนเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ต้องรอการประสานงานอีกทีภายหลัง ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ได้รับการประสานแบบนี้จะทำให้การดำเนินการมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทางตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ จะดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพราะผู้เสียหายเดือดร้อนอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขอให้สังคมวางใจได้ว่า เรื่องนี้ผู้กระทำผิดหรือมีพฤติกรรมหลอกลวงจะต้องถูกดำเนินการทางกฎหมายทุกราย
พล.ต.ต.พยูห์ กล่าวต่ออีกว่า ได้ตรวจสอบประวัติผู้ว่าจ้างให้ทำข้าวกล่องให้กับนางธนิสร แม่ค้าจำหน่ายพรรณไม้ พบว่าผู้ว่าจ้างที่เข้ามาทำการหลอกลวงนั้น เป็นพี่สามีกับน้องสะใภ้ น้องสะใภ้มีประวัติเกี่ยวข้องกับคดีอื่นและคดียาเสพติด ตอนนี้อยู่ระหว่างประกันตัวต่อสู้คดีความในชั้นศาล ได้เร่งให้พนักงานสอบสวนตามสถานีโรงพักอื่นตรวจสอบประวัติบุคคลทั้ง 2 หากมีสำนวนเกี่ยวกับคดีหลอกลวงเป็นคดีเกี่ยวเนื่องกันให้รายงานด่วน พร้อมตั้งทีมงานลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานที่ถูกกล่าวอ้างในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกแล้ว ไม่พบมีการสั่งออเดอร์กับผู้ใดเนื่องจากเป็นโรงงานที่มีพนักงานไม่ถึง 10,000 คน และไม่จำเป็นต้องสั่งข้าวกล่อง เพราะมีร้านค้าอยู่ภายในโรงงาน แสดงให้เห็นว่าคดีนี้เป็นการหลอกลวงให้หลงเชื่อทำสัญญา
ขณะนี���รอชุดทีมงานจากโรงงานดังกล่าวรายงานผลให้ทราบเพื่อนำเข้าในสำนวนคดี ตอนนี้ยังไม่มีการเรียกผู้ว่าจ้างมาทำการสอบสวน เนื่องจากการรวบรวมพยานหลักฐานยังไม่แล้วเสร็จ หากเสร็จแล้วจะเรียกผู้ว่าจ้างมาสอบทันที
นอกจากนี้ หากพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้ด้วย จะต้องถูกลงโทษสถานหนักถึงขั้นไล่ออก เบื้องต้นยังไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนี้แต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า นายอัจฉริยะ ได้ประสานมายังผู้เสียในพื้นที่ จ.อุตรดิตถ์ ที่เสียหายจากเรื่องดังกล่าวทุกรายแล้ว โดยให้เดินทางเข้าไปพบที่ส่วนกลาง เพื่อพาผู้เสียหายทุกรายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อกองปราบปรามให้ดำเนินการเรื่องนี้ และพร้อมที่จะช่วยเหลือทางคดีกับผู้เสียหายทุกรายหากถูกคู่สัญญาหรือกลุ่มคนหลอกลวงทำการฟ้องร้องกลับด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง