ไม่พบผลการค้นหา
ผู้ว่าฯ ณรงค์ศักดิ์ -ผบ.หน่วยซีล-ผอ.รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์-รองอธิบดีกรมอุทยานฯ -รองอธิบดี ปภ.-เกษตรจังหวัด -รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ตั้งโต๊ะแถลงปิด ศอร. 'ผู้ว่าณรงค์ศักดิ์' ย้ำเหตุการณ์ครั้งนี้แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทลายภาษา ทลายเชื้อชาติ ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือพา 13 ชีวิตกลับบ้าน กรมอุทยานฯ เตรียมฟื้นฟู ทำพิพิธภัณฑ์มีชีวิตถ้ำหลวง เกษตรจังหวัดพร้อมแจกเมล็ดพันธุ์ชดเชยค่าเสียหายเกษตรกรรับน้ำ

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์อำนวยการร่วมช่วยเหลือผู้สูญหายวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน หรือ ผบ.ศอร. เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เหนือคำว่ากู้ภัย กู้ชีพ แต่เป็นการแสดงออกของความสามัคคี การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เป็นการทลายกำแพงภาษา เชื้อชาติ เพื่อให้ทุกคนบรรลุเป้าหมายเดียวกัน เป็นการร่วมมือทั้งด้านเทคโนโลยี ความรู้ ตั้งแต่การสืบค้น ค้นหา กู้ภัย 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ก็ต้องส่งคืนพื้นที่ให้กับทางวนอุทยานฯ เพื่อนำไปฟื้นฟู บูรณะให้คงสภาพที่สมบูรณ์เหมือนเดิม ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ที่มาจากนานาชาติก็ต้องแจกแจงและคืนกลับสู่เจ้าของต่อไป  

สิ่งสำคัญ คือ หลังจากนี้ต้องมีการถอดบทเรียนเรื่องการกู้ภัยในถ้ำ ที่ไม่ใช่การกู้ภัยในถ้ำธรรมดา แต่เป็นการกู้ภัยในถ้ำที่มีน้ำท่วม ซึ่งถือว่ายากมาก

สำหรับการทำงานของราชการในอนาคต ต้องมีการปรับปรุงให้เรารายงานข่าวได้เร็วกว่านี้ 

"ในโซเซียล บางคนอาจมองน้องๆ 13 คนเป็นฮีโร บางคนอาจเขาเป็นผู้ร้าย แต่ในสายตาของพวกเรา มองเขาเป็นเด็กน้อย 13 คน ที่ปฏิบัติไปตามวิสัยของเด็ก ที่เกิดเหตุสุดวิสัย น้ำเข้ามาแล้วเขาออกไปไม่ได้ แต่เชื่อว่า เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้นมา เขาจะเรียนรู้ว่า คนหลายร้อยล้านคนติดตามดูเขาอยู่และให้กำลังใจเขา และพวกเขาจะเป็นพลเมืองที่ดี เป็นคนที่ดี" นายณรงค์ศักดิ์ กล่าว

นอกจากนี้ ในอนาคตถ้ำแห่งนี้อาจจะเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต มีสตอรี่ มีเรื่องเล่า และต่อไป อ.แม่สายจะมีนักท่องเที่ยวจากนานาชาติเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก จะมีเด็กๆ มาเรียนรู้เรื่องการดำน้ำ มีนักดำน้ำจากทั่วโลกสนใจที่นี่ 

ทั้งนี้ มีผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศสอบถามถึงวิธีการนำเด็กออกมาว่าใช้ยาประเภทใด ก่อนนำตัวเด็กออกมา นายณรงค์ กล่าวว่า ในกระบวนการบางเรื่องเราต้องให้เกียรติกันที่เราไม่แทรกแซง ซึ่งทุกคนคำนึงถึงเป้าหมายการทำงาน

ผบ.หน่วยซีลเผยกระบวนการลำเลียง 13 ผู้ประสบภัย

พลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือ หัวหน้าทีมซีล กล่าวว่า เราไม่ใช่ฮีโร หลายคนเป็นฮีโร งานนี้สำเร็จได้ด้วยทุกคน และกองทัพเรือมีสโลแกนว่าจะไม่ทิ้งประชาชน ซึ่งหน่วยซีลถูกฝึกมาแล้ว ทำงานอย่างนี้เป็นประจำ ดังนั้นเมื่อได้รับคำขอจาก จ.เชียงราย ให้มาช่วยในภารกิจนี้เราก็มาทันที แม้ว่ามาเมื่อถึงหน้างานแล้วจะพบว่า สภาพของถ้ำเป็นสิ่งที่เราไม่เคยเจอ และฝนก็ตกหนักมาก แต่เจ้าหน้าที่ทุกคนก็สู้ เพราะมีความหวังที่จะช่วยเหลือน้องๆ 

โชคดีที่มีนานาชาติมาช่วยในภารกิจครั้งนี้ และถ้าไม่มีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือภารกิจนี้อาจไม่สำเร็จ ยอมรับว่าภารกิจครั้งนี้ยากมาก ไม่เคยเจอ หลังจากนี้จะพัฒนาบุคคลากรเพิ่ม รับภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ

สำหรับขบวนการนำเด็กออกมาจากถ้ำ เป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของต่างประเทศดำเนินการ ซึ่งไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่เป็นตามมาตรฐานสากล เพื่อไม่ให้เกิดการตื่นตระหนกหรือเป็นอันตรายระหว่างการลำเลียง และทุกระยะมีการตรวจร่างกายระดับความดัน การนำน้องออกมานั้นได้ให้น้องสวมฟูลเฟซแมสก์ (หน้ากากเต็มหน้า) ให้กับน้องๆ แล้วนอนดำน้ำออกมา โดยให้เจ้าหน้าที่ชุดช่วยเหลือลำเลียงออกมาอีกที 

เพราะระยะทางที่มีการดำนำคิดเป็นร้อยละ 40 ของระยะทางจากเนินนมสาวออกจากถ้ำ ซึ่งการเลือกลำดับให้น้องออกมาจากถ้ำนั้น เป็นการเลือกของโค้ชเอก ขณะนี้ยังไม่ทราบเหตุผลของการเรียงลำดับออกมา

โดยทุกคนสวมใส่เสื้อเวทสูท หนา 5 มิลลิเมตร เพื่อควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย พร้อมสวมหน้ากากแบบเต็มหน้าที่ต่อกับท่ออากาศ ที่ปล่อยอากาศได้ตลอดเวลา ทำให้เด็กสามารถหายใจได้ตามปกติ จากนั้นได้ดำน้ำออกมาพร้อมกับนักดำน้ำ สองคนประกบเด็กหนึ่งคน เด็กจะอยู่นิ่งๆ นอนมาเรื่อยๆ ดำไปตามซอกหินเรื่อยๆ บางช่วงดำน้ำ บางช่วงน้ำตื้น จนไปถึงโถง ซึ่งเรื่องนี้เป็นวิธีการใหม่ และตนเองเพิ่งได้เรียนรู้จากมืออาชีพที่ทำกัน และเมื่อถึงโถงสามแล้ว ไม่อยากให้เด็กเดิน เพราะระยะทางไกลจากโถง จึงมีเปลที่ห่อหุ้มมาอย่างมิดชิดเพื่อรักษาอุณหภูมิในร่างกาย จากนั้นเจ้าหน้าลำเลียงออกมาถึงหน้าถ้ำ โดยมีพยาบาลค่อยเช็กสภาพร่างกายตลอดทุกจุดจนส่งไปโรงพยาบาล ดูแลเหมือนไข่ในหิน

อย่างไรก็ตาม พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน ผบ.พัน.สร.3 ผู้ร่วมปฏิบัติภารกิจกู้ชีพทีมหมูป่า เปิดเผยว่า เด็กๆ และโค้ชทั้ง 13 คน จะได้รับยา 'คลายเครียด' ไม่ใช่ 'ยาสลบ' ก่อนการลำเลียง

ขณะที่เพจ Thai NavySEAL เผยแพร่คลิปการลำเลียง "ปฏิบัติการที่โลกต้องจดจำ"

ปิดถ้ำตั้งแต่สายวันที่ 11 ก.ค.-ขอคงสิ่งของไว้ในนั้นก่อนเพื่อรอน้ำลด

ด้านนายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้นำคลิปวีดีโอการรักษา 13 ชีวิต ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เพื่อให้ทุกคนหมดกังวลมาเปิดแสดงให้สื่อมวลชน และ ประชาชน ได้รับชม เพื่อให้เห็นว่าขณะนี้น้องๆ ทั้งหมด ปลอดภัยและแข็งแรงดี เพียงยังต้องเปิดให้เยี่ยมผ่านกระจกก่อนเพื่อให้ปลอดเชื้อโรค

นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่า ในส่วนการเจาะโพรง การเบี่ยงเบนเส้นทางน้ำ ทั้งหมดต้องขอบคุณกรมชลประทาน กรมทรัพยากรและธรณี และชาวบ้านที่ให้ความร่วมมือช่วยเหลือตลอด ส่วนประเด็นการฟื้นฟูขณะนี้ได้เตรียมแผนไว้เรียบร้อยแล้ว ทั้งโพรง ฝาย ทุกจุดได้มีข้อมูลและพิกัดทุกอย่าง เพื่อให้ดำเนินการปรับคืนสภาพให้ทรัพยากรธรรมชาติ เบื้องต้นขณะนี้ได้สั่งปิดถ้ำ ตั้งแต่ 10.00 น. วันที่ 11 ก.ค. เพื่อทำการฟื้นฟูแล้ว

นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. กล่าวว่า พื้นที่ถ้ำหลวงขณะนี้ได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อแก้ปัญหาทางเทคนิคหลายอย่างและเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม ปภ.จะมีการดำเนินการปรับปรุงให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ทั้งหมด ส่วนสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายในถ้ำได้ขอความร่วมมือกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้คงสภาพไว้ก่อน

เร่งเยียวยาเกษตรกรรับน้ำ

เรื่องน้ำที่ถูกระบายเข้าสู่พื้นที่เกษตรกรนั้น นายสุขชัย เจรียงประเสริฐ เกษตรจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ใน 2-3 วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถสูบน้ำออกจากพื้นที่นาได้แล้ว โดยจากการสำรวจมีพื้นที่ 1,266 ไร่ มีเกษตรกร 126 ราย ที่ได้รับความเดือดร้อน วันที่ 12 ก.ค. เวลาประมาณ 10.00 น. จะมีการแจกเมล็ดพันธุ์ และ ชดเชยความเสียหายให้เกษตรกรต่อไป และการจ่ายเงินชดเชยจะเป็นการจ่ายให้เกษตรกรโดยตรง จากงบประมาณฉุกเฉินซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจจ่ายได้ ซึ่งมีอยู่ 50 ล้านบาท

พลตำรวจตรี ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวว่า ตำรวจใช้กำลังพลทั้งหมด 922 นาย มี ฮ. 10 ลำ รถพยาบาล และ อุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ในการดูแลและอำนวยความสะดวกภายในพื้นที่ให้กับทุกหน่วยงาน ซึ่งทุกอย่างจะประสบความสำเร็จไม่ได้หากไม่มีหน่วยงานรวมกว่า 13 หน่วยงานร่วมมือและช่วยเหลือ โดยพลตำรวจตรีชูรัตน์กล่าวทิ้งท้ายว่า หลายเชื้อชาติ หลากภาษา ต่างหน้าที่ หากร่วมใจกันสามัคคี ก็ประสบความสำเร็จได้

อ่านเพิ่มเติม :