นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความชื่อดัง เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า วันนี้ (26 พ.ย. 2561) เวลา 9.00 น.ศาลจังหวัดพระโขนง คดีดำที่ อ.1441/2561 ระหว่างพนักงานอัยการฯ โจทก์ น.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ ที่ 1, น.ส.มณีรัตน์ แสงภัทรโชติ โจทก์ร่วม กับ น.ส.รชนีกร เลิศวาสนา จำเลย คดีจอดรถกีดขวางทางเข้า-ออกอาคารฯ และก่อความเดือดร้อนรำคาญ
ศาลจังหวัดพระโขนง พิพากษาว่า จำเลยกระความผิดจริงตามฟ้อง โดยวินิจฉัย ในประเด็นสำคัญว่า ที่จำเลยอ้างว่าใช้เวลาจอดรถซื้อของเพียง 15 นาที โจทก์อ้างตนเองเบิกความเป็นพยานว่าจำเลยจอดรถขวางหน้าบ้านไม่สามารถนำรถออกได้ จึงบีบแตรใช้เวลานานถึง 30 นาที หากจำเลยจอดรถใช้เวลาไม่นานโจทก์คงไม่นำเสียมและขวานมาทุบกระจกรถของจำเลย เชื่อว่าจำเลยจอดรถขวางใช้เวลาซื้อของตามความประสงค์ของตนเอง โดยไม่คำนึงถึงสิทธิของบุคคลอื่น
การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำโดยเล็งเห็นผลต่อโจทก์ร่วมทั้งสองอันเป็นการทำให้โจทก์ร่วมทั้งสองได้รับความเดือดร้อนรำคาญบนถนนสาธารณะ ซึ่งประชาชนชอบที่จะใช้สัญจรได้ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำในสาธารณสถาน ทั้งเป็นการจอดรถตรงปากทางเข้าออกของอาคารและในลักษณะกีดขวางการจราจร
นอกจากนี้ โจทก์ร่วมยังติดประกาศคำพิพากษา คำสั่งของศาลปกครองไว้หน้าบ้าน ที่จำเลยอ้างว่าไม่ได้อ่าน และคิดว่าเป็นบ้านร้างนั้นฟังไม่ขึ้น การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้องตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก มาตรา 57 (10)(15),148 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท ส่วนความผิดตาม 397 วรรคสอง จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ แต่เป็นความเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่จำเลยตามมาตรา 90 พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจเปรียบเทียบปรับจำเลยในความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก เพื่อให้คดีเลิกกัน
เมื่อคดีนี้พนักงานสอบสวนไม่มีอำนาจลงบันทึกประจำวันเปรียบเทียบปรับเพื่อให้ความผิดทั้งหมดรวมทั้งโทษหนักกว่าเลิกกันได้จำเลยจึงมีความผิดตาม มาตรา 397 วรรคสอง อันเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษ 397 วรรคสอง เป็นบทที่หนักที่สุดจำคุก 15 วัน และปรับ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนเห็นควรให้โอกาสจำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดีโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง