ไม่พบผลการค้นหา
​เมซุต โอซิล เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมัน ประกาศเลิกเล่นทีมชาติอย่างเป็นทางการ หลังถูกเหยียดเชื้อชาติและจับเป็นแพะรับบาปกรณีเยอรมันตกรอบแรกฟุตบอลโลก

​เมซุต โอซิล กองกลางสโมสรอาร์เซนอล ยอดทีมแห่งเกาะอังกฤษ และผู้เล่นคนสำคัญของทีมชาติเยอรมัน ในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดกลายเป็นแพะรับบาปหลังถูกแฟนบอลและสหพันธ์ฟุตบอลเยอรมัน หรือ เดเอฟเบ วิจารณ์อย่างหนักหลังพาทีมชาติเยอรมันตกรอบแรกในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 โดยสิ่งที่เมซุต โอซิล ถูกโจมตีมากที่สุดคือการไปถ่ายรูปคู่กับนายเรเจป ทายยิป เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกี ซึ่งกำลังมีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน ทำให้เมซุต โอซิล ถูกมองให้เป็นแพะรับบาปในความล้มเหลวของทีมชาติเยอรมันครั้งนี้ 

aoz02.jpg

โอซิลเกิดที่เมืองเกลเซนเคียร์เซิน ในเยอรมนีตะวันตก โดยมีพ่อและแม่เป็นผู้อพยพชาวตุรกี โดยตามหลักการณ์แล้ว โอซิล สามารถเลือกเล่นให้ได้ทั้งสองประเทศคือทีมชาติตุรกีและเยอรมัน แต่โอซิลตัดสินใจที่จะรับใช้ทีมชาติเยอรมันตั้งแต่ปี 2009 จนถึงตอนนี้เป็นระยะเวลากว่า 10 ปีเต็มในการเป็นกองกลางให้กับทีมอินทรีเหล็ก โอซิลได้ระบุในแถลงการณ์ว่า "ผมเป็นคนชาติเยอรมันก็ต่อเมื่อเราชนะ แต่หากเราแพ้ เราก็ถูกมองเป็นแค่ผู้อพยพ ผมคิดรอบคอบแล้วและตัดสินใจจะไม่เล่นให้กับเยอรมนีอีกต่อไป เพราะผมรู้สึกว่าถูกเหยียดหยามและไม่ได้รับความเคารพแบบนี้" 

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาก โอซิลได้ออกแถลงการณ์ถึง 3 ฉบับเพื่อชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นพร้อมอธิบายว่า ทำไมเขาถึงถ่ายรูปคู่กับนายเออร์โดกัน และแสดงความผิดหวังกับกรณีที่ตนเองถูกเหยียดเชื้อชาติจากสื่อในเยอรมนี รวมถึงประกาศเลิกเล่นให้กับทีมอินทรีเหล็กด้วย ซึ่งประเทศเยอรมนีถือเป็นประเทศที่มีผู้อพยพมากที่สุดรองจากสหรัฐฯ คิดเป็น 12% จากประชากรเยอรมันทั้งหมดและกำลังมีปัญหากับนโยบายเปิดรับผู้อพยพที่หลายฝ่ายมองว่ามากเกินไป ทำให้หลายต่อหลายครั้ง กรณีเรื่องเชื้อชาติในเยอรมนีถูกนำมาทำเป็นโฆษณาชวนเชื่อและประเด็นทางการเมืองให้กับกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่เริ่มจะมีบทบาทมากขึ้นในทวีปยุโรป 

ประเด็นที่น่าสนใจคือ นักเตะเยอรมันหลายคนที่มีเชื้อสายจากที่อื่นอย่าง โคลเซ่และโพโดลสกี ก็มีเชื้อสายโปแลนด์แต่กลับไม่ถูกโจมตีในประเด็นเชื้อชาติเหมือนโอซิล นั่นอาจเป็นเพราะปัจจัยทางศาสนามากกว่าที่ทำให้โอซิลกลายเป็นแพะรับบาปและเครื่องมือทางการเมืองอย่างสมบูรณ์ โดยเมซุต โอซิล ระบุว่า "พวกเขาแสดงความเห็นแก่ตัวโดยใช้ผมเพื่อเป็นประเด็นทางการเมือง และผมจะไม่นั่งเฉยๆหรือไม่ทำอะไรเลยแน่ การเหยียดเชื้อชาติไม่ควรได้รับการยอมรับอีกต่อไปแล้ว" 

ภาพ: AFP