ชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ เทศบาลนครเชียงใหม่ และสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดเชียงใหม่ ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปิง จากพลพวงของพายุ “เบบินคา” ที่ทำให้เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ และทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักและแม่น้ำสาขาเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะแม่น้ำปิง ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำหลายสายและเพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว
ด้านชลประทานเชียงใหม่ได้ติดตามมวลน้ำก้อนใหญ่จากทางตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่ที่จะส่งผลกระทบโดยตรงกับระดับน้ำในแม่น้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งจะเพิ่มปริมาณขึ้นต่อเนื่องและเสี่ยงที่จะล้นตลิ่ง จึงได้ออกประกาศเตือนประชาชนริมแม่น้ำปิงให้เฝ้าระวัง แม้จะเชื่อมั่นว่าการบริหารจัดการจะไม่ทำให้น้ำล้นตลิ่ง แต่ก็แจ้งเตือนเพื่อความไม่ประมาท ซึ่งทางชลประทานเชียงใหม่ได้เตรียมพร้อมรับมือล่วงหน้าโดยบริหารจัดการน้ำ 3 แนวทางหลักคือ พร่องน้ำจากประตูระบายน้ำป่าแดด ให้ระดับหน้าในเขตตัวเมืองลดลง ผันมวลน้ำจากทางไหลแบ่งออกไปยังคลองชลประทานแม่แตง และออกไปทางชลประทานแม่แฝก เพื่อช่วยลดระดับน้ำที่จะไหลเข้าตัวเมืองไปอีกทาง
ทั้งนี้ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาประชาชนในตัวเมืองเชียงใหม่ตื่นตัวออกมาติดตามสถานการณ์น้ำตลอดทั้งคืน จนถึงเช้านี้ เมื่อเวลา ระดับน้ำก็ยังอยู่ในจุดที่ต่ำกว่าระดับวิกฤติ เมื่อเวลา 08.00 น. ระดับน้ำ ณ จุดวัดระดับน้ำ พี 1 เชิงสะพานนวรัตน์ ตัวเมืองเชียงใหม่มีปริมาณน้ำ 328.50 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีระดับน้ำอยู่ที่ 2.95 เมตร ในขณะที่จุดวิกฤติอยู่ที่ 3.70 เมตร และคาดว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงสุดเมื่อเวลา 09.00 น.จะไม่สูงกว่าจุดวิกฤติอย่างแน่นอน ประกอบกับปริมาณน้ำทางตอนบนเพิ่มทรงตัว และลดลงต่อเนื่อง รวมทั้งสถานการณ์ฝนในพื้นที่เริ่มลดลงตั้งแต่คืนที่ผ่านมาแล้ว สภาพอากาศเหนือเมืองเชียงใหม่เช้านี้ค่อนข้างแจ่มในท้องฟ้าเปิดมีแดดออกแล้ว ทำให้สรุปว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำปิงอาจจะแค่ปริ่มตลิ่ง ไม่เอ่อล้นอย่างแน่นอน
แม่ฮ่องสอน แม่น้ำแม่สะมาดทะลักเข้าท่วมไร่นา-บ้านเรือนราษฎรเสียหายหนัก
เมื่อเวลา 16.30 น.ของวันที่ 18 ส.ค.61 ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนที่ตกลงมาตลอดทั้งคืนและวัน ในเขตพื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ส่งผลให้น้ำป่าจากเทือกเขาไหลลงสู่แม่น้ำแม่สะมาด กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากล้นทะลักเข้าท่วมไร่นาราษฎรบ้านผาบ่อง หมู่ 1 ต.ผาบ่อง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ที่เพิ่งปักดำเสร็จใหม่ ๆ เสียหายเป็นบริเวณกว้าง และกระแสน้ำจากลำห้วยแม่สะมาดระดับยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มจะเอ่อล้นท่วมถึงถนนทางหลวงหมายเลข 108 ช่วงระหว่าง อ.เมืองแม่ฮ่องสอน – อ.ขุนยวม ในบริเวณเขตพื้นที่บ้านผาบ่อง ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านผาบ่อง มีการเฝ้าจับตาดูน้ำจากลำห้วยแม่สะมาดในช่วงค่ำนี้ตลอดเวลา เนื่องจากยังมีฝนตกลงมาอยู่ตลอดเวลา
ขณะเดียวกัน ช่วงปลายน้ำของลำน้ำแม่สะมาดก่อนไหลลงบรรจบแม่น้ำปาย น้ำลำห้วยแม่สะมาดยังทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร และภายในโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ที่บ้านแม่สะกึ๊ด ต.ผาบ่อง หลายสิบหลังคาเรือน ชาวบ้านบางส่วนต้องอพยพออกจากบ้านชั่วคราว และที่บ้านแม่สะกึ๊ด ต.ผาบ่อง อ.เมือง ยังมีวัวของชาวบ้านถูกน้ำป่าพัดสูญหายไปอีกจำนวนกว่า 50 ตัว โดยเจ้าของยังไม่สามารถออกค้นหาวัวที่สูญหายไปได้ เพราะกระแสน้ำไหลเชี่ยวกรากรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
นอกจากนี้ เส้นทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวห้วยปูแกง และหมู่บ้านชายแดนน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง ยังมีดินถล่มลงปิดทับเส้นทาง ทำให้นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางไปชมกะเหรี่ยงคอยาวที่บ้านห้วยปูแกงได้ทั้งทางเรือและทางรถยนต์ เจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบทแม่ฮ่องสอน เร่งนำรถหนักเข้าตักเกลี่ยดินที่พังลงมา เพื่อเปิดเส้นทางให้สามารถสัญจรไปยังหมู่บ้านท่องเที่ยวทั้งสองแห่งได้อย่างรวดเร็ว
นายพิศิษฐ์ กิจบุญอนันต์ นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ได้แจ้งไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้านให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำและสถานการณ์น้ำตามแหล่งน้ำต่างๆอย่างใกล้ชิดด้วย โดยเฉพาะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม หากจุดไหนมีความเสี่ยงโดยเฉพาะบ้านเรือนที่ตั้งในจุดเสี่ยงดินถล่ม ขอให้แจ้งให้ราษฎรอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัยชั่วคราว และประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนราษฎรในพื้นที่ทราบถึงสถานการณ์และอิทธิพลของพายุที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง หากพื้นที่ใดประสบเหตุขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเร่งด่วนเพื่อให้การช่วยเหลือทันท่วงที และสำรวจความเสียหายเมื่อเหตุการณ์สงบและแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและอำเภอทราบเพื่อดำเนินการช่วยเหลือต่อไป
สำหรับในพื้นที่บ้านเมืองแปง บ้านใหม่ดอนตัน และบ้านสบสา ต.เมืองแปง อ.ปาย น้ำจากแม่น้ำปายเอ่อล้นไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรของราษฎรได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง อยู่ระหว่างสำรวจ
สถานการณ์น้ำท่วม อ.ปง จ.พะเยา เริ่มคลี่คลาย
นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พล.ต.สายัณห์ เมืองศรี ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 34 นายวรวิทย์ บุรณศิริ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา และนายสิทธิ์ วงศ์ม่าน นายอำเภอปง จังหวัดพะเยา ต้องเข้าไปติดตามสถานการณ์น้ำที่ไหลบ่าเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอปง กว่า 7 ตำบล 40 หมู่บ้าน ที่บริเวณต้นน้ำยม ซึ่งสร้างความเสียหายต่อพื้นที่ทางการเกษตรมากกว่า 2,500 ไร่ นอกจากนั้น ยังได้นำสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคบริโภคเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านกว่า 30 ครัวเรือนในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลนาปรัง อำเภอปง ที่ติดเกาะ เนื่องจากถนนเส้นทางสัญจรในหมู่บ้านถูกน้ำตัดขาด จนไม่สามารถเดินทางออกจากพื้นที่ได้
นายณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อำเภอปง เริ่มคลี่คลายลง หลังจากที่มีฝนตกลงมาตั้งแต่วันที่ 17 และในช่วงเช้าของวันนี้น้ำได้ไหลบ่าเข้าท่วมในเขตพื้นที่ชุมชน จนถึงขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลง ส่วนที่เข้าติดตามพื้นที่ตรงนี้ เนื่องจากน้ำได้ตัดขาดเส้นทางจนทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรได้ ซึ่งทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูต่อไป และต้องฝากเตือนพื้นที่ด่านล่างคืออำเภอเชียงม่วน ที่จะต้องรับมวลน้ำจากตรงนี้ให้เฝ้าระวังติดตามและเตรียมการป้องกันภาวะน้ำท่วมในช่วงนี้ สำหรับสถานการณ์น้ำที่นี่คาดว่าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงค่ำวันนี้หากฝนไม่ตกลงมาเติมอีก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง