ที่เดอะไพน์ รีสอร์ท อ.สามโคก จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคการเมืองในนามกลุ่มสหพรรคการเมือง จำนวน 13 พรรค ยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ขอเลื่อนวันเลือกตั้งไปเป็นวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 ว่า การเลือกตั้งมีกำหนดชัดเจนและทุกคนทราบดี ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 หรือต่อให้เลื่อนออกไปก็ไม่เกินเดือนพฤษภาคม
"สมาชิกพรรคภูมิใจไทยอย่าง นายภราดร ปริศนานันทกุล พูดชัดแล้วว่า ถ้าไม่พร้อมก็ขึ้นรถบัสคันใหม่ คนอื่นเขาพร้อมกันหมด ไม่พร้อมก็รอเที่ยวหน้า อย่ามาหยุดยั้ง อ้างนู่นอ้างนี่ ทุกพรรคมีเวลาเท่ากัน ไม่มีพรรคใหม่พรรคเก่า คนที่อยู่ในการเมืองต้องมีสัญชาตญาณ มีไหวพริบเพียงพอจะรู้ว่าการเลือกตั้งควรเกิดขึ้นช่วงไหน เลื่อนไปอีก 1-2 เดือนไม่มีความหมายอะไรที่จะทำให้ตัวเองแข็งแกร่งหรืออ่อนแรงลง พรรคภูมิใจไทยพูดเสมอว่าพร้อมเลือกตั้งตลอดเวลา ถ้าใครบอกว่าไม่พร้อมแล้วให้รอ ไปขึ้นรถไฟเที่ยวหน้าดีกว่า อย่าทำให้คนอื่นเสียเวลาด้วย" นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามถึง กรณีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ที่ 16/2561 ซึ่งให้อำนาจ กกต. ขยายเวลาการแบ่งเขตเลือกตั้ง
นายอนุทิน กล่าวว่า ยอมรับว่ามีสมาชิกหลายคนแสดงความกังวล แต่คำตอบเดียวของตนคือ ถ้าจะไปเป็นผู้แทนของประชาชน อยู่ที่ไหนก็เหมือนกันหมด คือมีหน้าที่ทำความนิยม ถ้าดูแล้วบางเขตไม่เหมาะสมกับตัวเองก็ไม่ต้องลงเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยคงไม่ไปขอให้กำหนดเขตเลือกตั้งตามใจพรรค เพราะเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกกต. ว่าจะกำหนดอย่างไร ซึ่งพรรคก็พร้อมส่งผู้ที่เหมาะสมที่สุดลงต่อสู้ ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายวิจารณ์การทุ่มงบประมาณของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ และข้าราชการเกษียณจำนวน 5.87 หมื่นล้านบาท ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นการหาเสียงล่วงหน้า
นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นการตัดสินใจของผู้บริหารบ้านเมือง คนที่ได้อานิสงส์คือ ประชาชน อะไรก็ตามที่ทำให้ความทุกข์ของประชาชนคลี่คลายและประชาชนมีรอยยิ้ม ไม่ว่าจะยั่งยืนหรือชั่วคราว พรรคยินดีด้วย ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าจะมีผลต่อคะแนนเสียง พรรคยืนยันว่าไม่มีปัญหา เราอย่าไปดูถูกประชาชนขนาดนั้น รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลสารทุกข์สุกดิบของประชาชน เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง ประชาชนก็ต้องดูว่าใครที่ได้รับการเลือกตั้งไปแล้ว เข้าไปบริหารประเทศ ทำหน้าที่แทนเขาในสภา คนไหนจะมีความสำนึกต่อบ้านเกิดและนำประโยชน์มาให้เขาได้มากที่สุด คนนั้นก็จะได้รับการคัดเลือก ตนมองว่ายิ่งดีที่รัฐบาลแจกใกล้ปีใหม่ ต้องขอบคุณที่ได้กรุณาบรรเทาทุกข์ให้พี่น้องประชาชน
เมื่อถามถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) ซึ่งมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าในวันเดียวกันนี้กลับไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนาตามเดิม นายอนุทินกล่าวว่า ตนมาจากภาคธุรกิจ จะรับเช็กก็ต้องผ่านบัญชี ไม่เช่นนั้นก็เป็นเพียงกระดาษใบเดียว เพราะฉะนั้น อย่าไปตื่นเต้น ใครจะมาหรือไปถือเป็นสิทธิ อย่าไปลิดรอนสิทธิของเขา เราบริหารตัวเองให้ดีที่สุด ซึ่งก่อนหน้านี้ตนไม่ได้พูดคุยกับนายณัฐวุฒิและชาญชัย ทุกวันนี้ก็รอโทรศัพท์อยู่ ยังไม่มีใครโทรมาสักคน ส่วนหากทั้ง 2 คนไปร่วมงานกับพรรคชาติไทยพัฒนา ตนก็ยินดีด้วย เป็นสิ่งที่ดีแล้ว ทุกคนเป็นพี่น้องกันทั้งนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคภูมิจัดประชุมสาขาและเลือกตั้งกรรมการสาขา พรรคภูมิใจไทย จังหวัดปทุมธานี โดยมีแกนนำพรรคภูมิใจไทยเข้าร่วม อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคคนที่ 1 นายเกื้อกูล ด่านชัยวิจิตร รองหัวหน้าพรรคคนที่ 3 นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังของจ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย คือ นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ปทุมธานี มาแนะนำทีมงานว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. แบบแบ่งเขต จำนวน 6 คนด้วย
โดยนายอนุทิน กล่าวตอนหนึ่งยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยไม่เล่นการเมือง ไม่ขัดแย้งกับใคร แต่พยายามเป็นกาวใจให้ความขัดแย้งลดลง ซึ่งพรรคถือเป็นหน้าที่หลัก เพื่อนำความมั่นคงมาสู่ประเทศ
"วันนี้เราพร้อมกว่าทุกการเลือกตั้งที่ผ่านมา พวกเราไม่ใช่ฝนตกขี้หมูไหล แต่เป็นคนที่มีความตั้งใจมาทำงานเพื่อบ้านเมืองด้วยกัน ครั้งหนึ่ง ผมเคยเป็นรัฐมนตรี แต่ไม่ได้เป็น ส.ส. เวลาเข้าสภาฯ รู้สึกเหลือตัวเท่ามด เพราะต้องไปตอบคำถามของ ส.ส. ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน ดังนั้น ต้องทำการบ้าน ต้องพูดความจริง ไม่เช่นนั้นจะถูกกระชากตำแหน่งรัฐมนตรีได้ทันที อย่างไรก็ตาม เวลานี้ผมเป็นบัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรค และตั้งใจจะเป็นผู้แทนราษฎรให้ได้เพื่อความสง่างาม โดยแม่ทัพของพรรคในจังหวัดปทุมธานี คือ นายชาญ และถ้าพี่น้องปทุมธานีเลือกผู้สมัครของพรรคทั้ง 6 คน เราจะไม่เพียงได้ ส.ส. 6 คน แต่จะได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อด้วย" นายอนุทินกล่าว