ที่ประชุมใหญ่วิสามัญนัดแรกของพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) มีมติให้ ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช อดีต ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย บุตรชายนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต รมช.มหาดไทย เป็นหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ รองหัวหน้าพรรค ได้แก่ นายฤภพ ชินวัตร บุตรชายนายพายัพ ชินวัตร น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล นายพฤฒิชัย วิริยะโรจน์
นายมิตติ ติยะไพรัช บุตรชายนายยงยุทธ ติยะไพรัช แกนนำพรรคเพื่อชาติเป็นเลขาธิการพรรค
รองเลขาธิการพรรค ได้แก่ นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ นายต้น ณ ระนอง บุตรชายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายวิม รุ่งวัฒนจินดา
กรรมการบริหารพรรค ได้แก่ รศ.ดร.รุ่งเรือง พิทยศิริ นายจุลพงษ์ โนนศรีชัย อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ขณะที่ น.ส.ชยิกา วงศ์นภาจันทร์ (บุตรสาวนางเยาวเรศ ชินวัตร เป็นนายทะเบียนสมาชิกพรรค)
นายพงษ์เกษม สัตยาประเสริฐ อดีตผู้ประกาศข่าวช่องวัน เป็นโฆษกพรรค นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ภรรยานายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเหรัญญิกพรรค
โดย ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า หลังจากนี้ตนจะเชิญประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค คณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. และคณะที่ปรึกษา ทำแนวความคิดของพรรคเสนอต่อประชาชน และสื่อมวลชน ซึ่งแนวนโยบายของพรรคือเชื่อมโลกเชื่อมคนเข้าด้วยกันโดยไร้ช่องว่าง นำเทคโนโลยีมาพัฒนาเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิต และรวบรวมความคิดของคนรุ่นใหม่มาพัฒนาชาติ ไม่ยอมให้พี่น้องประชาชนตกยุค และไม่ยอมทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามสโลแกนของพรรค 'โลกก้าวไกล ไทยต้องก้าวทัน’
นอกจากนี้ หัวหน้าพรรคยังชี้แจงว่า พรรคไทยรักษาชาติเป็นการผสมผสานระหว่างคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเดิมที่มีความคิดเห็นตรงกันว่าประเทศไทยรอไม่ได้แล้ว เพราะโลกก้าวไปข้างหน้าโดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยมายกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งการแยกออกมาตั้งพรรคใหม่นี้ ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยก็เป็นพรรคที่มีประสบการณ์ แต่พรรคของตนคือคนรุ่นใหม่ และหลายครั้งคนอายุ 60-80 มักคิดว่าตนเองถูกและไม่ยอมรับฟังความเห็นของคนรุ่นใหม่ ประกอบกับรัฐธรรมนูญ ฉบับ 2560 ก็เปิดช่องให้มีการจัดตั้งพรรคเล็กพรรคน้อย ตนจึงเห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ก้าวเข้ามาทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ตนมีประสบการณ์ทางการเมืองมา 11 ปีแล้ว จึงจะใช้สิ่งที่ได้รู้และได้เห็นมาทำให้พรรคไทยรักษาชาติเป็นที่ยอมรับของประชาชน
ส่วนชื่อพรรคและโลโก้พรรค ดูมีความเกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร ร.ท. ปรีชาพล ชี้แจงว่า เป็นเรื่องนานาจิตตัง แต่ไทยรักษาชาติ หรือ ทษช. เขียนไว้ในข้อบังคับชัดเจน ตามความหมายที่ว่ารวมคนไทยให้เป็นหนึ่งเดียว ปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และระบอบประชาธิปไตย จึงมองว่าเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่สิ่งสำคัญคือจิตวิญญาณและอุดมการณ์ของพรรค พร้อมปฏิเสธว่าไม่มีการฮั้วกันระหว่างพรรค ทษช. กับพรรคเพื่อไทย เพราะถ้าทำอย่างนั้นก็เข้าข่ายผิดกฎหมาย ส่วนเรื่องแนวนโยบายของพรรคไทยรักไทยที่เคยประสบความสำเร็จ ตนไม่ปฏิเสธ และคิดว่าจะนำนโยบายเหล่านั้นมาต่อยอดโดยใช้เทคโนโลยี เช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ตนจะใช้ AI เข้ามาพัฒนาให้เข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้น
ร.ท. ปรีชาพล ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า พรรค ทษช. จะพยายามส่งผู้สมัครให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้คะแนนจากทั้ง ส.ส. แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ แต่ยังตอบไม่ได้ว่าคาดหวังกี่ที่นั่ง เพราะเป็นเรื่องของอนาคต และไม่ต้องการดูถูกประชาชน เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน ส่วนตัวพร้อมเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี แต่หากไม่ได้เสียงข้างมากก็พร้อมสนับสนุนและร่วมงานกับพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนจะมีแกนนำพรรคเพื่อไทย หรือคนในครอบครัวของกรรมการบริหารพรรคคนใดมาร่วมงานอีกหรือไม่ ตนยังไม่ทราบจนกว่าจะครบกำหนดรับสมัครสมาชิกพรรคในวันที่ 26 พ.ย.นี้ รวมถึงนายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าจะมารับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ก็ยังไม่มีการติดต่อมาแต่อย่างใด ส่วนนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช บิดาของตน ก็ยังไม่ได้ชักชวนมาร่วมงานในพรรค ทษช.
ภายหลังการแถลงข่าวนายกมล วิจิตรโสภาพันธ์ อดีตหัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติมามอบดอกไม้เพื่อส่งต่อหน้าที่ให้ ร.ท. ปรีชาพล
ส่วนคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค มีทั้งหมด 11 ราย แบ่งเป็นผู้บริการพรรค 4 ราย ประกอบด้วย ร.ท. ปรีชาพล น.ส. สุณีย์, นายมิตติ นายพฤฒิชัย และบุคคลอื่นอีก 7 ราย คือ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีตผู้ช่วย รมต.ศึกษาธิการ และโฆษกกระทรวงศึกษาธิการ น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายพิชิต ชื่นบาน อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ อดีตผู้บังคับการกองปราบปราม และอดีตผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีต ส.ส.แพร่ นายวราวุธ ยันต์เจริญ, นางสาวสุทิษา ประทุมกุล อดีตเลขานุการส่วนตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นอกจากนี้ยังมีคนรุ่นใหม่เข้าร่วมประชุม ได้แก่ นายพชร นริพทะพันธุ์ บุตรชายนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน นายพชร ธรรมมล หรือ ฟลุค เดอะ สตาร์, นายวิม รุ่งวัฒนจินดา อดีตทีมงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ส่วนนางระเบียบรัตน์ เชียร์ - ฑิฆัมพร ฤทธิ์ธาอภินันท์ และมดดำ - คชาภา ตันเจริญ มาให้กำลังใจแต่ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค
อย่างไรก็ตาม แกนนำคนสำคัญที่สื่อจับตามอง อย่าง นายจาตุรนต์ ฉายแสง นายนพดล ปัทมะ และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ หรือแม้กระทั่งนายพานทองแท้ ชินวัตร ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะมานั่งตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค ไม่ได้มาปรากฏตัวแต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง