กลุ่มเดินทะลุฟ้า นำโดย ท็อป-กันฒพัฒน์ พีรกิจธีรภูวดล ได้เข้าแจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง กรณีนายตำรวจนอกเครื่องแบบขับรถปาดหน้าและทำลายทรัพย์สินส่วนบุคคล กันฒพัฒน์ เผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 22:47 น. วานนี้(30 มี.ค.) ตนเป็นผู้ขับรถยนต์อีซูซุ ดีแม็กซ์ สีดำ สำหรับขนเครื่องดื่ม ได้ขนพัดลมจาก สน.นางเลิ้ง ที่ถูกยึดจากการสลายการชุมนุมหมู่บ้านทะลุฟ้าV.2 เดินทางกลับบ้านในสมุทรปราการ บนเส้นถนนพิษณุโลกจนถึงแยกนางเลิ้ง ได้มีรถตำรวจอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบอร์นเงิน ไม่ติดไซเรน ทะเบียนตราโล่ 67550 บีบแตรไล่เพื่อให้จอด แต่ตนไม่จอดเพราะเป็นที่มืด ก่อนจะขับมาปาดหน้าค่อมช่องทางการจราจร 1 และ 2
กันฒพัฒน์ เล่าต่อว่า เจ้าหน้าที่ที่ขับรถตำรวจอีซูซุ ดีแม็กซ์ สีบอร์นเงิน ไม่แสดงตัวเป็นเจ้าหนาที่ และจะขอดูบัตรประจำตัวประชาชนของตน พร้อมถูกแย่งกุญแจรถยนต์ไป ทั้งนี้ยอมรับว่าตนใช้แผ่นเทปปกปิดแผ่นป้ายทะเบียนรถจริง ซึ่งหากจะดำเนินการข้อหาตาม พ.ร.บ.จราจร ก็ยอม แต่ได้ตั้งคำถามถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่ ว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ กระทั้งได้วิดีโอคอลตามสมาชิกคนอื่นๆ ช่วยเข้ามากดดันจนได้รับกุญแจคืน แล้วเจ้าหน้าที่ก็ขับรถหนีออกไป โดยสภาพกุญแจรถยนต์มีความเสียหาย แตกร้าวและบิดเบี้ยว จึงเดินทางเข้าแจ้งความกับ สน.นางเลิ้ง ในข้อหาทำให้เสียทรัพย์
ขณะที่หนึ่งในทีมงานทะลุฟ้า กล่าวเสริมว่า หากเหตุการณ์เดียวกันเกิดกับประชาชนคนอื่นที่เดินทางคนเดียว หรือไม่ได้เป็นคนที่มีชื่อเสียงและไม่ได้อยู่ในกระแสสังคม การกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจในลักษณะนี้จะสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชนได้อย่างไร
สำหรับกรณีนายตำรวจนอกเครื่องแบบ พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง กล่าวว่า เบื้องต้นได้ตรวจสอบแล้ว พบว่าตำรวจนายนั้นไม่ใช่ตำรวจจาก สน.นางเลิ้ง แต่เนื่องจากหลักทางกฎหมายระบุไว้ว่าตำรวจมีอำนาจสืบสวนทั่วราชอาณาจักร เมื่อรับแจ้งความแล้วจะสอบปากคำรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ หากมีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาให้มาปฏิบัติหน้าที่ ก็จะติดตามนำตัวตำรวจนายนี้มาสอบถามข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร และจะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ยืนยันต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย