ไม่พบผลการค้นหา
'นครศรีธรรมราช' เผชิญวิกฤตน้ำท่วม 23 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อนหนัก ขณะมวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วม รพ.มหาราชนครศรีธรรมราชเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา ด้านกรมชลประทาน เร่งระบายน้ำออกจากตัวเมือง บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน

สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.นครศรีธรรมราชหลายพื้นที่ยังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ขณะนี้ได้เกิดน้ำท่วมทั้ง 23 อำเภอ แต่อำเภอที่หนักสุดได้แก่ อ.เมือง อ.พระพรหม อ.เชียรใหญ่ อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.ลานสกา อ.นบพิตำ อ.ท่าศาลา อ.ทุ่งสง มีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้แล้ว 3 ราย คือ ที่ อ.นบพิตำ 1 ราย,อ.เฉลิมพระเกียรติ 1 ราย อ.ฉวาง 1 ราย ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 6 แสนราย บ้านพังเสียหาย 8 หลัง หลังจากนี้จังหวัดจะช่วยเหลือตามมาตรการต่อไป ส่วนมาตรการช่วยเหลือของจังหวัด ขณะนี้ทางจังหวัดสั่งให้ทุกอำเภอทั้ง 23 อำเภอ เร่งออกให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างเต็มที่แล้ว


น้ำท่วม รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา มวลน้ำจำนวนมากจากเทือกเขาหลวง ได้ไหลบ่าเข้าท่วมตัวเมืองนครศรีธรรมราชเพิ่มขึ้น เช่น ถนนราชดำเนิน ที่ก่อนหน้านี้ในช่วงกลางวันสามารถสัญจรได้ แต่ขณะนี้ ถนนราชดำเนินช่วงหน้า โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทำให้รถที่ผ่านมาทางถนนสายดังกล่าว โดยเฉพาะรถยนต์ต้องจมน้ำเสียหายหลายคัน และถึงแม้ว่าทางโรงพยาบาลจะปิดประตู ทั้ง 2 ด้าน และนำกระสอบทรายมาปิดกั้น แต่ด้วยปริมาณน้ำที่มีจำนวนมาก และไหลเชี่ยว ทำให้น้ำจากคลองคูพาย ล้นบ่าเข้าท่วมภายในโรงพยาบาล ทำประชาชนที่เข้าใช้บริการ และการส่งผู้ป่วยเข้ารับการรักษาจำเป็นต้องเดินทางเข้าด้านหลัง ฝั่งถนนพัฒนาการคูขวางแต่ล่าสุดไม่สามารถเข้าได้แล้ว ส่วนผู้ป่วย และเครื่องมือทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งขนย้ายเป็นการด่วน ส่วนญาติผู้ป่วย และญาติผู้ป่วยที่ไม่สามารถกลับบ้านได้ ทางโรงพยาบาลก็ได้จัดที่พักและอาหารไว้บริการ

โรงพยาบาล_Moment.jpg


กรมชลฯ เร่งผลักดันน้ำออกสู่ทะเล

ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำและอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทาน ได้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช อย่างใกล้ชิด พร้อมระดมติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ และเครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด 

128751144_5090540494352283_6564734126737234123_o.jpg

สำหรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ปัจจุบันยังคงมีฝนตกหนักในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำในคลองเพิ่มสูงขึ้นและเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ 15 อำเภอ ของ จ.นครศรีธรรมราช สำนักงานชลประทานที่ 15 ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ จำนวน 25 เครื่อง ช่วยเร่งระบายน้ำในพื้นที่อ.เมือง 5 เครื่อง อ.ชะอวด 5 เครื่อง อ.ปากพนัง 12 เครื่อง และ อ.ทุ่งใหญ่ 3 เครื่อง และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ จำนวน 19 เครื่อง ประกอบด้วย ในเขตพื้นที่เทศบาลนครนครศรีธรรมราช 15 เครื่อง และในเขต อ.ปากพนัง 4 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากตัวเมืองให้เร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้ประชาชน 

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าประจำยังจุดเสี่ยงและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ ประกอบด้วย เครื่องสูบน้ำ 40 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 30 เครื่อง และรถขุดแบคโฮ 30 คัน สำรองไว้ในพื้นที่และพร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันที


อุตุฯ เตือน 10 จังหวัดใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนฝนตกหนักและคลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ ฉบับที่ 15 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 2563  ระบุว่า ในวันที่ 3 ธ.ค. 2563 จะมีฝนตกหนักบางแห่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล

ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไปคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง และชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กบริเวณ อ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 4 ธ.ค. 2563



รฟท. ปรับเดินรถสายใต้ 12 ขบวน

การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์มีพายุในพื้นที่หลายจังหวัดทางภาคใต้ ซึ่งสถานการณ์ในจังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะนี้ยังคงมีปริมาณฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง จนทำให้เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2563 มีมวลน้ำท่วมสูงไหลเข้าท่วมทางรถไฟ น้ำไหลเซาะหินโรยทาง และเมื่อเวลา 10.20 น. เกิดเหตุดินสไลด์ทับทางรถไฟ ระหว่างสถานีร่อนพิบูลย์ - ช่องเขา อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธธรรมราช เกิดเหตุน้ำท่วมทางรถไฟ หลักกิโลเมตรที่ 757 ในย่านสถานีชุมทางทุ่งสง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ทำให้ขบวนรถเส้นทางดังกล่าวไม่สามารถผ่านได้

128761630_4104830716198435_5848439722900260885_n.jpg

ดังนั้น การรถไฟฯ จึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนการเดินรถสถานีต้นทางปลายทาง และงดเดินขบวนรถบางขบวนในเส้นทางสายใต้ ในวันที่ 2 ธ.ค. 2563 จำนวน 12 ขบวน ให้เหมาะสมกับสถานการณ์และความปลอดภัยในการเดินทางของผู้โดยสาร โดยให้ขบวนรถที่มีปลายทางสถานีตรัง กันตัง และนครศรีธรรมราช เดินรถถึงสถานีชุมทางทุ่งสง และจะทำการขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ไปยังสถานีปลายทางต่อไป สำหรับขบวนรถที่ปรับเปลี่ยนประกอบด้วย

ขบวนรถที่งดให้บริการ ประกอบด้วย

  • ขบวนรถเร็วที่ 171/172 กรุงเทพ – สุไหงโกลก – กรุงเทพ
  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31/32 กรุงเทพ – ชุมทางหาดใหญ่ - กรุงเทพ
  • ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37/38 กรุงเทพ - สุไหงโกลก - กรุงเทพ

ขบวนรถที่ปรับเปลี่ยน ต้นทาง – ปลายทาง ที่สถานีชุมทางทุ่งสง และทำการขนถ่ายผู้โดยสารทางรถยนต์ ประกอบด้วย

  • ขบวนรถด่วนที่ 83/84 กรุงเทพ – ตรัง – กรุงเทพ
  • ขบวนรถด่วนที่ 85/86 กรุงเทพ - นครศรีธรรมราช – กรุงเทพ
  • ขบวนรถเร็วที่ 167/168 กรุงเทพ - กันตัง – กรุงเทพ

สำหรับ ประชาชนที่ซื้อตั๋วโดยสารเดินทางกับขบวนรถดังกล่าวข้างต้นหากไม่ประสงค์จะเดินทาง สามารถติดต่อขอคืนเงินได้ที่ช่องจำหน่ายตั๋วสถานีรถไฟทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง


เผยภาพดาวเทียมน้ำท่วมใต้ พบนครศรีฯ หนักสุด 2.1 แสนไร่

เพจเฟซบุ๊กด GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เปิดเผยข้อมูลว่า ดาวเทียม sentinel-1 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2563 พบน้ำท่วมขังในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี สงขลา และพัทลุง กว่า 340,000 ไร่ โดยนครศรีธรรมราชหนักสุดกว่า 215,000 ไร่

อย่างไรก็ตาม GISTDA ได้ดำเนินการวางแผนและปรับแผนรับสัญญาณดาวเทียม เพื่อวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด รวมทั้ง ยังคงต้องติดตามข่าวสารและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้ในการวางแผน ติดตาม สำรวจ และตรวจสอบในพื้นที่จริง เพื่อหาทางบรรเทาและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงแก้ไขปัญหาต่อไป

128759872_10158562744186265_619855552911219813_o.jpg



#น้ำท่วมนครศรีธรรมราช ติดเทรนทวิตเตอร์ไทย

ผู้ใช้ทวิตเตอร์ต่างพร้อมใจกันติดแฮชแท็ก #น้ำท่วมนครศรีธรรมราช จนติดเทรนทวิตเตอร์ไทยอันดับที่ 2 มีผู้ทวีตข้อความแล้วกว่า 322,00 ข้อความ โดยส่วนใหญ่เป็นการอัพเดตสถานการณ์น้ำท่วม แจ้งขอความช่วยเหลือในจุดต่างๆของจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมประชาสัมพันธ์เบอร์โทรศัพท์หน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือหากต้องการการช่วยเหลือเร่งด่วน

Untitled.jpg