นางสมศรี วัฒนไพศาล อธิบดีอัยการภาค 7 พร้อมคณะทำงาน แถลงผลการสั่งคดีของนายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กับพวกอีก 3 คน โดยคณะทำงานอัยการพิจารณาสำนวนและหลักฐานทางคดีแล้วมีความเห็นสั่งฟ้องนายเปรมชัย 6 ข้อหา คือ ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร ,ร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันช่วยซ่อนเร้นฯ ซากสัตว์ป่า, และร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้คณะทำงานมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องนายเปรมชัยร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, และร่วมกันกระทำทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร
สาเหตุที่ไม่ฟ้องนายเปรมชัย ข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นเนื่องจากปืนของนายเปรมชัยมีทะเบียนการครอบครองอย่างถูกต้อง ส่วนข้อหาเข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้นหลังจากตรวจสอบแล้วพบว่านายเปรมชัย มีการขออนุญาตเข้าพื้นที่แต่การเข้าไปผิดขั้นตอนจึงไม่ฟ้องในข้อดังกล่าว
ด้านนายยงค์ โดดเครือ ถูกฟ้องรวม 7 ข้อหา ซึ่งข้อหาที่แตกต่างจากนายเปรมชัย คือ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ด้านนางนที เรียมแสน ถูกสั่งฟ้อง 5 ข้อหา มีข้อหาที่แตกต่างจากนายเปรมชัย คือ ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาต นายธานี ทุมมาศ ถูกสั่งฟ้อง 8 ข้อหา ข้อหาที่ต่างจากนายเปรมชัย คือ ร่วมกันมีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาพยายามล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต
นอกจากนี้ อัยการยังเรียกค่าเสียหายทางคดีอาญาเกี่ยวกับเสือดำ ตีราคา 4.6 แสนบาท ส่วน ความเสียหายทางคดีแพ่ง 12 ล้านบาท ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชต้องไปฟ้องเรียกค่าเสียหายเอง