นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวนกรณีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรให้ทราบ ทั้งนี้ พลเอกประวิตร ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกับคณะกรรมการ ป.ป.ช.เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2557 จำนวน 87,373,757.62 บาท โดยพบว่าช่องแสดงรายการทรัพย์สินอื่นราคาตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป ไม่ปรากฎว่ามีการแจ้งนาฬิกาข้อมือรวมถึงทรัพย์สินอื่นใด
นายวีระระบุในหนังสือที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. ว่า การที่พลเอกประวิตรไม่แสดงรายการทรัพย์สิน โดยเฉพาะนาฬิกาข้อมือราคาแพงจำนวน 10 เรือน ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 23.98 ล้านบาท จึงเป็นการจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรได้เชื่อว่า มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินนั้นด้วย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 235 วรรค 7
ขณะเดียวกัน นายวีระ ยังขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวนพลเอกประวิตร กรณีร่ำรวยผิดปกติด้วย โดยพลเอกประวิตรมีทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้ยื่นบัญชีแจ้งต่อคณะกรรมการป.ป.ช.เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2557 จำนวนกว่า 87 ล้านบาท มารวมกับราคานาฬิกาข้อมือจำนวน 10 เรือนดังกล่าวที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 23.98 ล้านบาท ทำให้เชื่อได้ว่าพลเอกประวิตร มีทรัพย์สินทั้งสิ้นประมาณ 111,353,757.62 บาท เพราะรายได้ของพลเอกประวิตรที่ได้รับตั้งแต่รับราชการทหารยศร้อยตรี เมื่อปี2513 มีเงินเดือนประมาณ 2,000 บาท เมื่อนับรวมถึงการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมประมาณ 3 ปีกว่า มีเงินเดือนรวมเงินประจำตำแหน่งหักภาษีในแต่ละเดือนไม่ถึง 100,000 บาทหรือประมาณ 100,000 บาท แต่พลเอกประวิตรก็มีรายจ่ายในแต่ละเดือนด้วย จึงทำให้มีเงินเหลืออยู่เป็นเงินเก็บสะสมเต็มที่ตลอดกว่า 30 ปีน่าจะไม่ถึง 20 ล้านบาท ดังนั้น พลเอกประวิตร จึงมีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นประมาณ 111 ล้านบาท จึงเป็นการมีทรัพย์สินมากผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ เข้าข่ายมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4
ด้าน นายสุทธิ บุญมี ผู้อำนวยการสำนักการข่าวและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. กล่าวว่า จะนำคำร้องนี้ส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา เนื่องจากเคยมีผู้ร้องในประเด็นนี้มาแล้ว รวมทั้งยังคงรอหนังสือชี้แจงที่มาของทรัพย์สินจากพลเอกประวิตร ซึ่งตามกำหนดต้องยื่นให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในวันที่ 8 มกราคม 2561 แต่จนถึงขณะนี้ ทาง ป.ป.ช. ยังไม่ได้รับหนังสือชี้แจง หากได้รับมาแล้ว เชื่อว่าจะใช้เวลาพิจารณาไม่นาน เนื่องจากเป็นประเด็นที่คนในสังคมให้ความสนใจ