นางสาวอรุณี ชำนาญยา อดีต ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย เขต1 กล่าวกรณีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดพะเยาเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมนี้และได้กล่าวว่า "เห็นใจคุณพะเยาที่รัฐบาลก่อนๆไม่ได้ช่วยพัฒนาให้เจริญขึ้นเลย" ว่า
"อย่ามัวแต่โทษคนอื่น ตัวท่านยึดอำนาจประชาชนไปเกือบห้าปีด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แม้แต่จะวิพากษ์วิจารณ์ยังไม่ได้ รัฐบาล คสช.ทำให้บ้านเมืองพัฒนาก้าวหน้า ประชาชนพะเยาอยู่ดีกินดีขึ้นหรือไม่”
ทางด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณอดีต ส.ส.พะเยา เขต 2 และอดีตรองประธานสภาฯคนที่สองกล่าวเพียงสั้นๆว่า "รัฐบาลของท่านประยุทธ์อยู่มาเกือบ 5 ปีช่วยอะไรพะเยาบ้าง ทำไมชาวพะเยาจนลงกว่าทุกรัฐบาล "
ส่วนนายไพโรจน์ ตันบรรจง อดีต ส.ส.พะเยาพรรคเพื่อไทย เขต 3 กล่าวว่า จังหวัดพะเยาพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สมัยที่นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีต ส.ส.พะเยาหลายสมัย และร่วมมือกับ อดีต ส.ส.พะเยาทั้ง 3 เขต
โดยสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนให้รัฐบาลที่ผ่านมา ได้รับรู้และเข้ามาช่วยพัฒนาเมืองพะเยา จนกระทั่งได้มีมหาวิทยาลัยพะเยา เป็นแหล่งการศึกษาของเยาวชนพะเยาและเยาวชนไทยจากทั่วประเทศ มีวิทยาลัยเทคนิคเพิ่มที่อำเภอเชียงคำ อำเภอปง และอำเภอดอกคำใต้
"ปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อเด็กและสตรียากจน ก็ได้รับการแก้ไขมาอย่างต่อเนื่องด้วย นโยบายแก้จนของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยและนโยบายของพรรคเพื่อไทยมากที่สุด เพราะมีกองทุนหมู่บ้าน มีโครงการ30 บาทรักษาทุกโรค ราคายางพาราสูงถึง กิโลกรัมละ 100กว่าบาท ราคาข้าวก็สูงถึงเกวียนละ 15,000 บาท" นายไพโรจน์ กล่าว
อย่างไรก็ตามการพัฒนาหยุดชะงักทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจของทหาร วันนี้ในยุค รัฐบาลทหารของ คสช. ราคาผลผลิตการเกษตรทุกอย่างตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ถูกปฏิวัติ ได้บริหารประเทศต่อเนื่องครบสี่ปี ชาวพะเยาจะไม่ยากจนอย่างทุกวันนี้แน่นอน
อ่านเพิ่มเติม