บริษัทแมคโดนัลด์ของสหรัฐฯ แถลงข่าวเมื่อวานนี้ (6 มี.ค.) โดยระบุว่าทางบริษัทใช้เนื้อวัวสดแทนการใช้เนื้อแช่แข็งในการปรุงอาหารเมนูเบอร์เกอร์ธรรมดาและเบอร์เกอร์แบบพรีเมี่ยมแล้ว 3,500 สาขาทั่วสหรัฐฯ และจะให้ครบทุกสาขาภายในเดือนพฤษภาคมนี้
การเปลี่ยนมาใช้เนื้อวัวสดแทนการใช้เนื้อวัวแช่แข็ง เป็นหนึ่งในแผนการปรับปรุงคุณภาพอาหารของแมคโดนัลด์ รวมถึงเป็นแผนกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อเพิ่มการแข่งขันกับธุรกิจฟาสต์ฟู้ดเจ้าอื่น
คริส เคมซินสกี้ ประธานบริษัทแมคโดนัลด์สหรัฐฯกล่าวว่า การเปลี่ยนการปรุงเนื้อ จากเนื้อแช่เเข็งมาเป็นเนื้อสดนั้นเป็นผลจากการเรียกร้องของพนักงานในครัวและซัพพลายเออร์ของร้านแมคโดนัลด์ ซึ่งมีการลงทุนเพิ่มเติมกว่า 60 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงการส่งเนื้อให้สามารถส่งเป็นเนื้อสดแทนเนื้อแช่แข็งได้
การเปลี่ยนแปลงมาใช้เนื้อวัวสดแทนเนื้อแช่แข็งครั้งนี้เป็นการขยับตัวเพื่อแข่งขันกับตลาดฟาสต์ฟู้ดอีกหลายเจ้าที่หันมาใช้เนื้อสดในการปรุงอาหาร เช่น Shake Shack ร้านเบอร์เกอร์ฟาสต์ฟู้ดที่ใช้เครื่องปรุงที่สดและแตกต่างจากเจ้าอื่น ทำให้ส่วนแบ่งในตลาดฟาสฟู้ดเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
'แมคโดนัลด์กำลังเผชิญหน้ากับความกดดันจากการแข่งขันในอุตสาหกรรมอาหาร และความกดดันจากผู้บริโภคที่ทำให้ต้องเปลี่ยนแปลงตนเอง' เดวิด เฮนเกอร์ ประธานอาวุโสของบริษัทเทคโนมิก บริษัทที่ปรึกษาวิจัยร้านอาหารกล่าว
ปัจจุบันร้านแมคโดนัลด์ในไมอามี ออร์แลนโด และแนชวิลล์ ต่างหันมาใช้เนื้อวัวสดแทนเนื้อแช่แข็งสำหรับเมนูเบอร์เกอร์เนื้อ และในเดือนหน้าสาขาลอสแอนเจลลิส ฮุสตัน และซานฟรานซิสโกก็จะเสิร์ฟเนื้อวัวสดแทนเนื้อวัวแช่แข็ง
ขณะที่ทางแมคโดนัลด์ของสหราชอาณาจักรกล่าวกับบีบีซีว่า ตอนนี้ทางแมคโดนัลด์ของสหราชอาณาจักรกำลังดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ก่อนที่จะตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการปรุงเนื้อสัตว์ในสหราชอาณาจักร
ปัจจุบัน แมคโดนัลด์ในสหราชอาณาจักรใช้เนื้อวัวทั้งหมดจากอังกฤษและไอซ์แลนด์ และยังคงใช้เนื้อแช่แข็งนอกจากนี้ยังไม่มีการปรุงเนื้อด้วยพริกไทยและเกลือเพิ่มแต่อย่างใด
