อาชญากรรม
เปิดใจนักพนันบอล 'เสียมากกว่าได้' ผลวิจัยชี้ปี 60 เกิดนักพนันหน้าใหม่ 1.1 แสนคน
"เสียหนักสุดคือค่าเทอมทั้งหน่วยกิตทั้งเทอม เสียมอเตอร์ไซค์ทั้งคัน น่าจะเกือบครึ่งแสนภายในคืนเดียว รวมทั้งมอเตอร์ไซค์ทั้งคัน"
คำบอกเล่าของ อาจารย์คง เป็นชื่อที่ถูกเรียกติดปากกันในหมู่เพื่อนฝูงของเขา โดยปัจจุบัน อาจารย์คง มีอายุ 35 ปี ทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผย
เขาย้อนอดีตเมื่อครั้งที่ตัวเองเคยศึกษาอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยถึงขั้นเกือบหมดเนื้อหมดตัว ด้วยเพราะการเสี่ยงโชคกับการเล่นพนันทายผลฟุตบอล
'อาจารย์คง' เปิดใจกับ 'วอยซ์ ออนไลน์' ว่า ตัวเองเริ่มต้นเปิดซิงเล่นพนันผลฟุตบอลครั้งแรกเมื่ออายุ 15 ปี โดยสนใจเล่นทายผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษในยุคที่ 'อาร์เซนอล' กำลังครองอำนาจจ่าฝูงลูกหนังเมืองผู้ดี
"ที่ตัดสินใจเล่นเพราะเราต้องการใช้เงิน ตอนเป็นนักศึกษาเรายังไม่รู้ช่องทางหาเงินมาจากไหน มีสิ่งเดียวที่รู้และถนัดสุดคือฟุตบอล มันน่าจะทำให้เราหาเงินได้จากการเสี่ยงดวง พนัน ทายผล"
นักเสี่ยงโชคผลบอลลูกกลมๆในเกม 90 นาทีผู้นี้ บอกถึงประสบการณ์การเสี่ยงดวงกีฬาลูกหนังว่า เริ่มต้นก็เล่นในหมู่เพื่อนฝูงก่อนขยับมาแทงกับโต๊ะที่เปิดบ่อน
"ตอนนี้อายุ 35 ปี เล่นมาเรื่อยๆ พักหลังเลิกไปบ้างเพราะทำงาน รู้ว่าการเล่นพนันฟุตบอลไม่ได้ทำให้มีเงินใช้ ที่หนักสุดที่เล่นคือช่วงเป็นนักศึกษา อยากใช้เงิน รู้เรื่องฟุตบอล เล่นกับเพื่อน กับโต๊ะ เมื่อก่อนยังไม่มีพนันออนไลน์เหมือนทุกวันนี้"
ประสบการณ์การเสียพนันฟุตบอลที่หนักสุดในชีวิตนั้น 'อาจารย์คง' ย้อนรำลึกความหลังไปเมื่อสมัยเป็นนักศึกษา จากที่เคยเป็นเพียงนักเล่นมารับเป็นโต๊ะรับเงินจากเซียนพนันแทน
"แรกๆเราเป็นคนเล่นเอง มีได้มีเสีย เราก็จำไม่ได้อันไหนมากกว่า แต่เห็นว่าเสียมากกว่า สุดท้ายมองว่าเป็นโต๊ะน่าจะได้เปรียบ น่าจะเป็นคนได้ เพื่อนก็จะรู้ว่าเราเล่น ฟุตบอลทายผลบอลก็จะส่งกับเราฝากกับเรา หรือเราก็รับพนันไว้เอง ในมุมของคนเล่นก็จะเสี่ยงในมุมคนเล่น แต่พอเป็นคนรับ เงินจำนวนต่อคืนมันก็มาก พอเรารับมาเสร็จ คนที่เรารับมาก็ทายถูก เราก็ต้องเป็นคนไปจ่ายเอง ทำให้เราเสียมากไปในคืนเดียว"
นั่นคือจุดหักเหสำคัญที่ทำให้ 'อาจารย์คง' ต้องสูญเสียเงินส่วนตัวถึงครึ่งแสนบาท เพราะบอลที่รับมาทายถูกหมด ทำให้เขาต้องเสียเงินให้กับนักพนันที่ทายผลถูกทั้งหมด
"เป็นเจ้ามือได้ไม่กี่ครั้งเงินก็หมด หมดมอเตอร์ไซค์ หมดเงินค่าเทอมที่เสียตอนเรียน ทำให้อยู่ไม่ได้ในวงการนี้ ไม่สามารถเป็นโต๊ะเองได้ การเป็นนักศึกษาทำให้เราเสีย"
ในปัจจุบัน แม้อาจารย์คงจะพักจากการเล่นพนันผลฟุตบอลไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีบางครั้งที่เขายังคงเสี่ยงดวงกับการพนันประเภทนี้
เพียงแต่เขาจะไม่ได้เล่นจนถี่เกินไป โดยเลือกเล่นในรูปแบบพนันฟุตบอลออนไลน์ ซึ่งการเล่นจะไม่เล่นจนเสพติด เพราะรู้ว่าตั้งแต่เล่นพนันมา เสียมากกว่าได้
อาจารย์คง บอกถึงประสบการณ์เมื่อครั้งเสพติดพนันฟุตบอลว่า เขาไม่เคยเก็บเงินไว้ได้ เมื่อบวกจากการแทงผลบอลก็ถือเป็นเครดิต ก็จะนำเงินนั้นมาแทงบอลต่อ ทำให้เสียเงินไปเรื่อยๆ
"พอหมดเสร็จ หวังจะได้คืน ก็เติมเงินเข้าไปอีก ก็เสียอีก กลายเป็นเสียซ้ำเสียซ้อนไปหลายเท่า"
อาจารย์คง ยังฝากไปถึงเยาวชนที่คิดจะริเริ่มเล่นการพนันว่า ทุกคนหวังจะได้เงิน แต่มีบางส่วนเล่นเพราะสนุก แต่จริงๆ แล้วบทสรุปคือไม่ได้เงิน มันเสียมากก่วาเดิม แต่ไม่ควรเสพติดกับการพนันฟุตบอล
"ผมไม่อยากให้สังคมไปปิดกั้นว่าการพนันบอลควรห้าม ผมมองว่าอย่างน้อยมีสิทธิที่จะเล่น เสี่ยงสนุกๆ เป็นบางครั้ง"
"ยิ่งไปปิด ผมว่าก็ยิ่งอยากเข้าไปหามันเข้าไปดู ควรจะเปิดหรือให้ความรู้ที่ถูกต้องว่าการเล่นแบบไหน เป็นช่วงที่มันสนุก ช่วงไหนที่เสียจนเกินไป ควรพัก ควรจะเลิก ผมว่าสังคมควรเปิดใจให้กับการเล่นพนันบอล หรือทายหวย ผมมองว่ามันก็เหมือนกับหวย เล่นได้แต่ต้องดูในระดับที่เหมาะสม" อาจารย์คง ย้ำ
(การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย)
เมื่อหันมาดูผลสำรวจการ รายงานสถานการณ์การพนันในสังคมไทย ประจำปี 2560 ของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บ่งชี้ว่า เมื่อปี 2560 มีคนไทยเล่นพนันทายผลฟุตบอล จำนวน 2.476 ล้านคน
เป็นการรวบรวบข้อมูลกับประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 15 ปีขึ้นไป ใน 25 จังหวัดทั่วประเทศ โดยสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น และกำหนดลักษณะตัวอย่างให้สอดคล้องกับประชากรเป้าหมายจริง รวมจำนวน 7,008 ตัวอย่าง โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 15 ก.ย. - 15 ต.ค. 2560
ในบรรดาการพนันที่คนไทยมีประสบการณ์การเล่น ปรากฎว่า พนันทายผลฟุตบอลอยู่ในอันดับ 4 มีผู้เล่นร้อยละ 17.1
(ที่มา - ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ)
ขณะที่อันดับ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล ร้อยละ 79 อันดับ 2 หวยใต้ดิน ร้อยละ 74 อันดับ 3 ไพ่ ร้อยละ 38.1
การพนันทายผลฟุตบอล ที่คนไทยเล่นในปี 2560 จากการสำรวจพบว่ามีถึง 2.476 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นถึง ร้อยละ 24.3 (4.84 แสนคน) จากปี 2558 โดยมีนักพนันหน้าใหม่เริ่มเล่นพนันทายผลฟุตบอลครั้งแรก จำนวน 117,301 คน
ขณะเดียวกัน คนไทยที่เล่นการพนันทายผลฟุตบอลในปี 2560 มีวงเงินหมุนเวียนในตลาดการพนันทายผลฟุตบอล 140,016 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2.9 หรือประมาณ 3,891 ล้านบาท เมื่อปี 2558
เมื่อคิดจากจำนวนคนไทยที่เล่นพนันฟุตบอล 2.476 ล้านคน กับวงเงินการเล่นพนันฟุตบอล 1.4 แสนล้านบาทแล้วจะพบว่า คนไทยจำนวน 2.476 ล้านคนจะเล่นพนันบอลเฉลี่ยคนละ 56,549 บาท
รายงานของศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน ยังบอกว่า มีเยาวชน อายุ 15-25 ปี จำนวน 0.609 ล้านคน และมีนักพนันฟุตบอลหน้าใหม่ 117,301 คน
รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ ระบุว่า การพนันฟุตบอลแม้จะติดเข้ามาเป็นอันดับ 4 แต่มีสัดส่วนเยาวชนเข้ามาเล่นสูงที่สุด
"มันมีมิติที่หลากหลายกว่านั้น จะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามา ก็มีผู้เล่นที่ต้องเลิกเล่นไป เพราะว่าการพนันฟุตบอล เป็นการพนันที่เกิดหนี้สินเร็วที่สุด ถ้าเทียบกับการพนันประเภทอื่น พอมีปัญหาหนี้สิน สะสมอยู่ไม่ได้ต้องเลิก จะมีหน้าใหม่เข้ามาหน้าเก่าต้องออกไป"
(รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ ผอ.ศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ)
รศ.ดร.นวลน้อย บอกด้วยว่า "เมื่อทำให้ถูกกฎหมายไม่ใช่ว่าที่ผิดกฎหมายมันจะหายไปนะ มันก็ยังอยู่ถ้าหากว่าการปราบปรามกฎระเบียบไม่แข็งแรง ที่เวลาประสบการณ์ต่างประเทศคงเหมือนกันทุกประเทศ เราไม่ควรให้คนที่อายุน้อย ไม่มีรายได้เข้าสู่การพนันเร็วเกินไป ถ้าเขาตัดสินใจจะเล่นควรเข้ามาเมื่อมีการทำเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีวุฒิภาวะ"
เมื่อถามว่าจากการศึกษาการพนันมาหลายปี คือไม่สามารถลดจำนวนผู้เล่นนักพนันได้ใช่หรือไม่ รศ.ดร.นวลน้อย ตอบทันทีว่า ไม่สามารถลดปัญหาได้ ซึ่งการเปิดการพนันให้ถูกกฎหมาย จะต้องมีกระบวนการเตรียมการที่เยอะ และต้องมีคณะกรรมการกำกับเรื่องพนันเพื่อบอกว่าอะไรจะเปิดได้บ้าง อีกทั้งต้องยอมรับว่า บางอย่างเมื่อเปิดให้ถูกฎหมายก็เลวร้ายลงไปอีก เพราะในปัจุจุบันยังมีการแอบเล่นอยู่
"แนวโน้มคนเล่นพนันจะติดกับดักการพนัน เล่นแล้วเกิดผลกระทบปัญหาหนี้สิน จนนำไปสู่การนำเงินมาใช้หนี้ เริ่มต้นตั้งแต่เอาเงินเก็บตัวเองมา ขายข้าวของ ยืมเพื่อน ไปขอญาติพี่น้อง พวกที่มีปัญหาเรื่องหนี้สินจากการพนัน เขาอาจจะแก้ปัญหาโดยยืมเพื่อน จนไม่มีใครให้ยืม ความรุนแรงจะหาวิธีใช้หนี้เหล่านั้น บางคนใช้หนี้แบบฉ้อโกง ลักขโมย มีปัญหาที่ตามมาคือ อาชญากรรม ขายยาเสพติด" รศ.ดร.นวลน้อย ระบุ
รายงานของศูนย์ศึกษาการพนัน ยังระบุถึง คนที่เลิกเล่นการพนันได้ในปี 2560 มีร้อยละ 27.1 หรือ 10.798 ล้านคน โดยอันดับ 1 ร้อยละ 21.1 ระบุว่าแค่ลอง เล่นสนุก เล่นชั่วครั้งชั่วคราว
อันดับ 2 ร้อยละ 18.9 คือเล่นเสียเลยเลิก
อันดับ 3 ร้อยละ 14.1 พ่อแม่ คนในครอบครัว สามี ภรรยาห้าม
อันดับ 4 ร้อยละ 13.9 เห็นว่าเป็นสิ่งไม่ดีจึงเลิกเล่น
เมื่อสอบถามไปถึงโอกาสที่จะกลับมาเล่นการพนันอีกครั้งหรือไม่จากผู้ที่เคยเล่นพนัน แต่เลิกเล่นในปี 2560 โดยร้อยละ 55.3 บอกว่าจะไม่กลับมาเล่นพนันอีก ร้อยละ 41.1 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 3.6 จะกลับมาเล่นพนันอีก
ยิ่งเข้าสู่บทสรุปของมหกรรมฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย แม้จะมีการกวดขันอย่างหนักจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เว็บพนันฟุตบอลยังคงเกิดขึ้นอยู่ไม่สามารถปิดได้ทุกเว็บไซต์
โดยศูนย์ป้องกันปราบปราบการลักลอบเล่นการพนันทายผลการแข่งขันฟุตบอล กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รายงานสถิติจนถึงเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีการจับกุมเจ้ามือและผู้เล่นพนันฟุตบอลไปแล้วกว่า 2,800 คน ยึดเงินของกลางไปกว่า 180,000 บาท มูลค่าเงินในโพยกว่า 900,000 บาท เงินในบัญชีธนาคารอีกกว่า 27 ล้านบาท
ด้าน เจมส์ ลาลีกา ผู้สื่อข่าวสยามสปอร์ต ประจำกรุงมาดริด ประเทศสเปน ระบุกับ 'วอยซ์ ออนไลน์' ถึงการเสี่ยงโชคด้วยการพนันฟุตบอลว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว
"ฟุตบอลมันเป็นกีฬานะ แต่คนไปผูกติดกับการพนันเอง มันเป็นนิสัยของคน มันไม่ใช่ฟุตบอลก่อให้เกิดการพนัน กีฬามันก็คือกีฬา เราดูกีฬาให้สนุกก็ดูได้"
หมายเหตุ - การพนันเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
