ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ นำนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะว่าที่โฆษกพรรคฯ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะว่าที่เลขาธิการพรรคฯ นายชวน ชูจันทร์ ในฐานะว่าที่กรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่พบเครือข่ายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากชุมชนทั่วประเทศกว่า 200 คน ที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม โดยหลังจากเดินทางมาถึงนายอุตตม ได้ชมนิทรรศการการออกร้านของชุมชนต่างๆ
โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวกับเครือข่ายที่มาให้การต้อนรับว่า วันนี้ไม่ได้มาในนามรัฐมนตรี แต่มาในนามของพรรค เพื่ออาสามาเข้ามาทำงานให้กับบ้านเมือง ในนามของพรรค และไม่ได้ติดหัวโขนมา จึงไม่ต้องมีพิธีกรรมอะไร เพื่อมาต้อนรับตน สำหรับการลงมาในครั้งนี้ก็เพื่อรับฟังปัญหาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพราะภาคประชาสังคมถือว่ามีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ
จากนั้นนายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์หลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีข้อทวงติงว่าบุคคลที่จะลงเล่นการเมืองไม่ควรใช้เวลาและสถานที่ราชการ ยืนยันว่าการลงพื้นที่ของรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐมีความระมัดระวังและใช้เวลาในวันหยุดราชการดำเนินการทางการเมือง รวมถึงพบปะประชาชน โดยไม่มีการเอาเวลาหรือทรัพยากรของรัฐมาใช้ แม้แต่ในเวลาราชการจะไม่การพูดหรือให้สัมภาษณ์ในประเด็นการเมือง เช่นเดียวกับสถานที่ไม่ว่าจะเป็นทำเนียบรัฐบาลหรือกระทรวง ทุกคนก็ระมัดระวังเพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฏกติกา จึงขอให้สบายใจว่าทุกคนตระหนักและใช้ความเข้มงวดในบทบาทโดยไม่คิดจะใช้ความได้เปรียบในตำแหน่งหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ทางการเมือง แต่ตรงกันข้ามทุกคนทำงานด้วยความยากลำบากเพราะต้องทำงานหนักกว่าเดิม
ส่วนกรณีการเข้าหารือภายในห้องทำงานนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาลนั้น เป็นการพูดคุยเรื่องงานด้านเศรษฐกิจของรัฐบาล ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง เนื่องจากการประชุมการประชุมเกี่ยวกับการเมืองจะใช้สถานที่ภายนอกเพราะทราบดีว่าหากใช้สถานที่ราชการถือเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอีกทั้งการหารือภายในห้องทำงานของนายสมคิดเกิดขึ้นก่อนที่รัฐมนตรีทั้ง 4 คนจะเปิดตัวร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ
นายสนธิรัตน์ ยังปฏิเสธด้วยว่า การลงพื้นที่พบปะประชาชนไม่ได้เป็นการหาเสียงล่วงหน้าตามที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ แต่มาประชุมที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยม เนื่องจากเป็นที่รู้จักของภาคประชาสังคมค่อนข้างมาก หากไปใช้สถานที่ของโรงแรม ภาคประชาสังคมคงไม่สะดวกใจ และถ้ามีสถานที่อื่นในลักษณะนี้ทางพรรคก็จะเดินทางไปเช่นกันหากได้รับเชิญ เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้ทำกิจกรรมกันอย่างต่อเนื่องและได้เห็นว่าพรรคพลังประชารัฐให้ความสนใจภาคประชาสังคม จึงมารับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ
ส่วนกรณีกระแสต่อต้านจากพรรคการเมือง จะทำให้เกิดความบานปลายหรือไม่ นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ทุกอย่างต้องมีกรอบและหลักเกณฑ์ เพราะที่ผ่านมาการเมืองบอบช้ำจากการที่ทุกคนไม่อยู่ในหลักการ ซึ่งสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐกำลังดำเนินการ เป็นสิ่งที่เคยทำกันมาในอดีตและเป็นไปตามกฏหมาย ซึ่งตรงกันข้ามวันนี้พรรคพลังประชารัฐถือเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ ไม่เคยทำการเมืองมาก่อนความลำบากใจมีมากกว่านักการเมืองในอดีตและพวกเราระมัดระวังมากที่สุด พร้อมยืนยันจะลาออกในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นหลัง กกต.รับรองให้พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองหรือไม่ แต่ในช่วง 3 เดือนนี้ขอให้ดูผลงานในฐานะรัฐมนตรี ซึ่งจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จึงขออย่าใช้ความรู้สึกมาตัดสิน แต่ให้ยึดหลักการและพฤติกรรมของพวกเราเป็นตัวตัดสิน เพราะหลังจากตัดสินใจชาออกจากตำแหน่งจะสรุปให้ฟังว่าสิ่งที่เคยบอกไว้ว่าจะทำมาตรฐานให้ดีกว่าเป็นอย่างไร
ด้านนายอุตตม เปิดเผยว่า การมาลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่ได้มาเยี่ยมชม แลกเปลี่ยน และรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนที่เข้มแข็ง สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่ภาครัฐเองก็ต้องพัฒนาชุมชนมาจากฐานรากตามวิถีไทย ยืนยันวันนี้ตนไม่ได้มาในฐานะรัฐมนตรีหรือนักการเมือง แต่เป็นกลุ่มการเมืองที่ได้รับเชิญจากภาคประชาชนเท่านั้น อนาคตอาจจะมีกลุ่มการเมืองอื่นๆ ที่ได้รับเชิญมาอีก ซึ่งการมาพูดคุยวันนี้จะนำข้อมูลต่างๆ ไปสรุปเพื่อให้ทำนโยบายของพรรคในอนาคต แต่ยังไม่พูดเรื่องนโยบายของพรรคในวันนี้เพราะกฎหมายยังไม่ปลดล็อก ขณะเดียวกันอะไรที่เป็นปัญหาต้องเร่งแก้ไข หรือเป็นประโยชน์ในการทำงานในฐานะรัฐมนตรีเพราะว่าเรายังทำงานอยู่
หลังจากนี้จะให้เวลาวันหยุดลงพื้นที่พบประชาชนอีก เพราะถือเป็นการพักผ่อนไปในตัว แม้หลายคนจะกล่าวหาว่าเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนในการสวมหมวกสองใบ แต่ตนชี้แจงอย่างชัดเจนทุกครั้งว่ามาในฐานะแกนนำกลุ่มการเมือง ส่วนเรื่องความคิดของคนคงห้ามไม่ได้ ขณะเดียวกัน นายอุตตม ยอมรับว่า มีกลุ่มอดีต ส.ส. พรรคอื่นๆ เข้ามาพูดคุยของร่วมพรรคซึ่งตนก็รับฟัง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีกลุ่มไหนมาร่วมบ้าง ต้องรอให้จดทะเบียนรับรองสถานะพรรคการเมืองจาก กกต. ก่อน
ส่วนนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ปฏิเสธการลงพื้นที่ครั้งแรก ไม่เกี่ยวข้องกับการเปิดตัวเฟซบุ๊ก และโซเชียลมีเดียของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อีกทั้งกิจกรรมวันนี้ไม่ใช่พรรคพลังประชารัฐจัด แต่เป็นชาวบ้านจัด แล้วเชิญกลุ่มของตนมาร่วม
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า หนึ่งปีที่ทำงานใน ครม. ตนเอาแนคิดประชาชนมาทำต่อให้เกิดผล แล้ววันนี้มารับฟังต่อ ได้เห็นชุมชนเข้มแข็งขึ้น และหลายธุรกิจชุมชนประสบความสำเร็จ ซึ่งตนเห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญที่เปิดเวทีให้ชาวบ้านที่เชี่ยวชาญในเรื่องต่างกันมาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพราะชาวบ้านเข้าใจปัญหา และหาทางแก้ไขได้ดีกว่าตน ดังนั้นสิ่งที่ชาวบ้านคิด รัฐบาลจะทำให้ นี่คือหัวใจของประชารัฐ
ขณะเดียวกัน วันนี้มีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 3 คนมาร่วมด้วย ได้แก่ นางสาวกานต์กนิชญ์ แห้วสันตติ ส.ก. เขตพระนคร, นางกนกนุช กลิ่นสังข์ ส.ก. เขตดอนเมือง, และนางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ก.คลองเตย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการลงพื้นที่ตลาดน้ำคลองลัดมะยมของแกนนำพรรคพลังประชารัฐมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาคอยดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :