นายวงศ์พัฒน์ พันธุ์เจริญ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารกสิกรไทยได้รับอนุญาตจากทางการจีนให้เป็นธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นจดทะเบียน โดยให้จัดตั้งเป็นบริษัท ธนาคารกสิกรไทย (ประเทศจีน) จำกัด มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเซินเจิ้น ซึ่งเป็นเมืองที่ธนาคารกสิกรไทยเข้ามาก่อตั้งกิจการ และได้รับใบอนุญาตตั้งสำนักงานผู้แทน ตั้งแต่ปี 2537 แล้วยกระดับเป็นสาขาธนาคารต่างประเทศ เมื่อปี 2539
ด้วยยุทธศาสตร์ 2 ด้าน คือ หนึ่ง เป็นตัวกลางเชื่อมธุรกิจการค้าการลงทุนของลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน + 3 ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าหลักคือ ธุรกิจไทย จีน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น สอง ใช้ดิจิตอล แบงกิ้งค์ แพลตฟอร์ม ให้บริการลูกค้ารายย่อย เน้นที่บริการชำระเงิน เนื่องจาก ปัจจุบันคนจีนใช้อินเตอร์เน็ตมากถึงร้อยละ 95 และเป็นลูกค้าของแอปพลิเคชั่นชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น WeChat มากถึง 900 ล้านคน
ดังนั้น หลังจากได้รับใบอนุญาตเป็นธนาคารท้องถิ่นเต็มรูปแบบแล้ว หลังจากนี้ ธนาคารจะขออนุญาตจากทางการจีนเปิดบริการสำหรับลูกค้ารายย่อย (รีเทล) เพื่อรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีเกือบปีละ 10 ล้านคน ซึ่งคาดว่า ภายในอีก 2 ปีหลังจากนี้ จะได้รับใบอนุญาตและเปิดดำเนินการได้
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยในจีน ใช้เวลานานกว่า 23 ปี กว่าจะได้จัดตั้งเป็นธนาคารพาณิชย์ท้องถิ่นที่จดทะเบียนในประเทศจีน ซึ่งเป็นธนาคารไทยรายที่ 2 ที่ได้รับใบอนุญาตนี้ในสาธารณรัฐประชาชนจีน
นอกจากนี้ ยังใช้โอกาสนี้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับกรมพาณิชย์แห่งมณฑลกวางตุ้ง เพื่อสร้างความร่วมมือและอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจกวางตุ้ง ที่สนใจใช้ไทยเป็นฐานทำการค้าใน AEC (ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน) รวมถึงธุรกิจไทยที่สนใจลงทุนค้าขายในเขตภาคใต้ของจีนด้วย
ทั้งนี้ นักลงทุนจากมณฑลกวางตุ้ง เป็นกลุ่มนักลงทุนในไทยที่มีเม็ดเงินลงทุนขนาดใหญ่มากถึง 390 ล้านเหรียญสหรัฐ
รายงานโดย : อังศุมาลิน บุรุษ