องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ 'ฮิวแมนไรท์วอทช์' หรือ HRW ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 18 มิ.ย. เรียกร้องให้นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ และนายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส แสดง��่าทีให้ชัดเจนว่าผู้นำทั้งสองประเทศจะฟื้นฟูความสัมพันธ์กับไทยตามปกติก็ต่อเมื่อไทยกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย และเปลี่ยนผ่านรัฐบาลทหารไปสู่รัฐบาลพลเรือนแล้วเท่านั้น
แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการ HRW ประจำเอเชีย ระบุด้วยว่า รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จับกุมและดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้มีการจัดเลือกตั้งภายในปีนี้รวมแล้วเกือบ 100 คน ทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นเงื่อนไขตามโรดแมปที่รัฐบาล คสช. เคยให้คำมั่นสัญญาเอาไว้แล้ว
"การเจรจาต่อรองทางธุรกิจไม่ควรเกิดขึ้นหากมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน รัฐบาลอังกฤษและฝรั่งเศสจะต้องกดดันรัฐบาลทหารให้ยุติการกดขี่ประชาชน เพื่อที่ประเทศไทยจะได้กลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยที่พลเรือนเป็นผู้ปกครองรัฐบาลในที่สุด" อดัมส์กล่าว
นอกจากนี้ แถลงการณ์ของ HRW ยังเรียกร้องให้รัฐบาล คสช. ยกเลิกการบังคับใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งให้อำนาจแก่หัวหน้า คสช. อย่างกว้างขวาง ต้องยุติการดำเนินคดีในข้อหายุยงปลุกปั่นแก่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งและนักกิจกรรมทางการเมืองอื่นๆ ต้องเคารพสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิในการชุมนุมทางการเมืองของพลเรือนทุกกลุ่ม และต้องโอนการพิจารณาคดีพลเรือนที่ยังตกค้างในศาลทหารทั้งหมดไปสู่กระบวนการพิจารณาคดีตามปกติ
ช่วงเวลาเดียวกัน ผู้ใช้สื่อออนไลน์ที่ใช้ชื่อว่า Thailand Human Rights Campaign UK ได้จัดทำโครงการรณรงค์ผ่านเว็บไซต์ change.org เพื่อล่ารายชื่อผู้ต่อต้านรัฐบาลทหารของไทยเช่นเดียวกัน โดยระบุว่าจะนำรายชื่อดังกล่าวไปยื่นต่อนางเมย์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ และเรียกร้องให้ยกเลิกคำเชิญ พล.อ. ประยุทธ์ ไปเยือนอังกฤษ
นอกจากนี้ ผู้รณรงค์ยังเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษพิจารณายกเลิกการขายอาวุธให้รัฐบาล คสช. โดยระบุว่า กองทัพเป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องกับการออกคำสั่งและใช้กำลังอาวุธปราบปรามประชาชนที่ออกมารวมตัวต่อต้านอดีตรัฐบาลเมื่อปี 2553 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 100 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: