วันที่ 24 เม.ย. พรรคเพื่อชาติ จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์รณรงค์ให้ประชาชนทั่วไปออกมาร่วมส่งเสียงร้อง สะท้อนปัญหาความเดือดร้อนในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา และแสดงพลังให้สังคมเห็นถึงความตั้งใจในการทำการเมืองของกลุ่มพรรคเล็กๆ ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในชื่อกิจกรรม "คุณได้ยินเสียงร้องของพวกเราไหม" นำโดย ยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ปรึกษาพรรคเพื่อชาติ โดยปล่อยคาราวานรถ ออกไปรณรงค์ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อกระตุ้นให้ได้รับการตอบรับจากสังคม
ยงยุทธ กล่าวถึงวัตถุประสงค์การทำกิจกรรมว่า กิจกรรมนี้เริ่มต้นมาจากเราฟังเสียงหัวใจประชาชน เพื่อให้รัฐบาลในอนาคตได้ยิน อาทิ ปัญหาเรื่องค่าไฟแพง ที่วันนี้ค่าไฟของไทยแพงกว่าประเทศเพื่อบ้าน รวมถึงปัญหาหนี้ของประชาชนและของประเทศ และอนาคตของลูกหลานที่ยังมองไม่เห็น
พร้อมมองว่า รัฐบาลนี้ปล้นอำนาจอยู่มา 8 ปีแล้ว แม้ตอนนั้นมีอำนาจมาตรา 44 ก็ยังแก้ปัญหาอะไรไม่ได้สักอย่าง และการจะมาขออยู่ต่อมันไม่ได้ นี่จึงเป็นสิ่งที่พรรคเพื่อชาติ อยากเตือนให้ประชาชนได้รับทราบ ส่วนนโยบายของพรรคขอให้ประชาชนตัดสินใจ พร้อมย้ำว่าการจะแก้ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำ ต้องตัดสัมปทานจากบริษัทเจ้าสัวให้หมด
ส่วนกระแสของพรรคเพื่อชาติ ขณะนี้ ยงยุทธ ระบุว่า แม้พรรคจะไม่ได้ติดอยู่ในการจัดอันดับของโพลต่างๆ แต่ขอให้รอดูผลวันเลือกตั้ง 14 พ.ค. เนื่องจากการไปปราศรัยในพื้นที่ภาคเหนือเสาร์-อาทิตย์ ที่ผ่านมาตอนแรกคิดว่าจะมีประชาชนมา 5 พันคน แต่สุดท้ายมาเป็นหมื่น ดังนั้นขอให้ดูกระแสการลงพื้นที่หลังจากนี้ สุโขทัย ตาก ชุมพร โดยนโยบายที่จะไปเน้นกับคนใต้ อาทิ เรื่องประมง การท่องเที่ยว ยางพาราและปาล์ม พร้อมย้ำว่าจะมุ่งเจาะทุกฐานเสียงของฝ่ายเผด็จการ ส่วนฝ่ายประชาธิปไตยด้วยกันเราโอนอ่อน "วันนี้ประชาชนรู้แล้ว ว่าประชาธิปไตยที่เกิดจากวาทกรรม มันก่อให้เกิดความยากจน"
เมื่อถามว่า มองปรากฏการณ์พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล ที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกับเผด็จการ ติดอันดับต้นๆ ของโพลมาตลอดอย่างไร ยงยุทธ กล่าวว่า สถานการณ์หลังจากนี้ ถ้าอยู่กันอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการยุบพรรคหรือตุกติก ขบวนการประชาธิปไตยก็เดินต่อไปได้ แต่ถ้าพรรคของลุงๆยืนยันจะไม่ลง และไปร่วมมือกับคนในกองทัพยึดอำนาจหรือสร้างเงื่อนไขอีก บ้านเมืองจะแย่ แต่ถ้าฟังเสียงประชาชนบ้างบ้านเมืองก็จะดี
ส่วนโพลที่ฝั่งประชาธิปไตยได้รับความนิยมนั้น มองว่า เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ถูกเก็บและกดไว้ ฉะนั้นถ้าไม่มีอุปสรรคอะไรก็จะเป็นเรื่องดี แต่ถ้ามีปรากฏการณ์ที่เขาไม่ยอมลง มันก็จะเป็นปัญหา