ต่างประเทศ
หมอกควันปกคลุมสหรัฐฯ อีสต์โคสท์ฟ้าเหลือง เหตุไฟป่าในแคนาดา
สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ออกประกาศเตือนคุณภาพอากาศสำหรับพื้นที่เกือบทั้งหมดของชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตั้งแต่มลรัฐเวอร์มอนต์ไปจนถึงเซาท์แคโรไลนา และไกลออกไปทางตะวันตกอย่างโอไฮโอและแคนซัส ออกเตือนประชาชนว่าการออกมากลางแจ้งอาจทำให้เกิดปัญหาระบบทางเดินหายใจ เนื่องจากฝุ่นละอองขนาดเล็กในชั้นบรรยากาศอยู่ในระดับสูง
AccuWeather บริการพยากรณ์อากาศเอกชนของสหรัฐฯ ระบุว่าหมอกและเขม่าควันหนาที่แผ่ขยายจากที่สูงสู่ระดับพื้นดิน นับเป็นการปะทุของควันไฟป่าที่เลวร้ายที่สุด ที่ปกคลุมพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ในรอบกว่า 20 ปี
เคที โฮชุล ผู้ว่าการมลรัฐนิวยอร์ก ระบุว่าสถานการณ์หมอกควันในครั้งนี้อยู่ในระดับ "วิกฤติฉุกเฉิน" โดยเธอระบุว่าดัชนีมลพิษทางอากาศสำหรับหลายพื้นที่ในมลรัฐนิวยอร์กมีสูงกว่าค่าปกติถึง 8 เท่า ทั้งนี้ ภาพวิวอาคารลัดฟ้าในนิวยอกร์กหายไปในม่านควัน ซึ่งผู้อยู่อาศัยบางคนระบุว่าหมอกควันเหล่านี้ทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบาย
ทัศนวิสัยที่ลดลงจากหมอกควัน ทำให้สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ ต้องชะลอการจราจรทางอากาศเข้าสู่พื้นที่นครนิวยอร์กและฟิลาเดลเฟียจากที่อื่นๆ บนชายฝั่งตะวันออก และพื้นที่ตอนกลางทางตะวันตกตอนบน โดยเที่ยวบินส่วนใหญ่ล่าช้าออกไปโดยเฉลี่ยประมาณครึ่งชั่วโมง นอกจากนี้ โรงเรียนในแถบชายฝั่งตะวันออกสั่งงดกิจกรรมกลางแจ้ง ซึ่งรวมถึงกีฬา ทัศนศึกษา และปิดภาคเรียน
ในบางพื้นที่ของสหรัฐฯ ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ซึ่งวัดสารก่อมลพิษทสำคัญ รวมทั้งฝุ่นละอองที่เกิดจากไฟ มีค่ามากกว่า 400 ตามข้อมูลของ Airnow ซึ่งมีเกณฑ์กำหนดให้ค่าตัวเลข 100 นับเป็นคุณภาพอากาศที่ "ไม่ดีต่อสุขภาพ" และ 300 เป็นค่า "อันตราย"
ในช่วงเที่ยงเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ เมืองเบธเลเฮม มลรัฐเพนซิลเวเนีย ได้รับการบันทึกดัชนีคุณภาพอากาศที่แย่ที่สุดของประเทศ โดยมีค่า AQI อยู่ที่ 410 โดยในบรรดาเมืองใหญ่ๆ นิวยอร์กมีค่า AQI สูงที่สุดในโลกเมื่อบ่ายวันพุธอยู่ที่ 342 ซึ่งสูงกว่าดัชนีประมาณ 2 เท่า สำหรับเมืองที่มีมลพิษเรื้อรัง เช่น ดูไบที่ 168 และเดลีที่ 164 ตามรายงานของ IQAir
ควันได้พวยพุ่งเข้ามาเหนือพรมแดนสหรัฐฯ จากแคนาดา ซึ่งเกิดไฟป่าหลายร้อยจุดที่ได้เผาผลาญพื้นที่ไปกว่า 9.4 ล้านเอเคอร์ และส่งผลให้ผู้คนกว่า 120,000 คนต้องอพยพออกนอกพื้นที่ ในช่วงเริ่มต้นฤดูไฟป่าที่เร็วผิดปกติและรุนแรง ทั้งนี้ ท้องฟ้าเหนือนิวยอร์กและอีกหลายเมืองในอเมริกาเหนือ เริ่มมืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันพุธ โดยฟ้ากลับกลายมามีสีเหลืองน่าขนวิตก พร้อมอากาศที่มีกลิ่นเหมือนไม้ไหม้
ควันไฟป่าเชื่อมโยงกับอัตราการเกิดหัวใจวาย และโรคหลอดเลือดสมองที่สูงขึ้น ตลอดจนผู้ป่วยฉุกเฉินที่เพิ่มขึ้นด้วยโรคหอบหืดและภาวะทางเดินหายใจอื่นๆ การระคายเคืองตา อาการคันที่ผิวหนังและผื่น รวมถึงปัญหาทางร่างกายอื่นๆ เช่นกัน
ที่มา:
