วันที่ 7 พ.ค. 2566 พรรคเพื่อไทย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ และครอบครัว พวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่กรุงเทพมหานคร ดนุพร ปุณณกันต์ รองประธานรณรงค์หาเสียงพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขัตติยา สวัสดิผล , พชร ธรรมมล ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย สุรชาติ เทียนทอง และ อนุสรณ์ ปั้นทอง ลงพื้นที่ขอคะแนนประชาชน บริเวณตลาดนัดจตุจักร และ ตลาดสด อ.ต.ก.
โดยทันทีที่ เศรษฐาและคณะพรรคเพื่อไทยเดินทางมาถึง มีผู้สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างรุมขอเซลฟีจำนวนมาก ประชาชาบาวรายอวยพรขอให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ขอให้พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง บางรายเรียกเศรษฐาว่า "นายกฯ" , "รอมานแล้ว" บางรายเข้าไปกระซิบข้างหูนายเศรษฐาว่า "เบื่อสองลุง" และเศรษฐาได้พูดคุยกับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาขอถ่ายรูปอย่างเป็นกันเอง
ในช่วงหนึ่ง นายเศรษฐา เดินเข้าไปร้านขายน้ำ และสั่งโกโก้เย็น โดยมีชื่อเมนูว่า "โกโก้เบื่อลุง" ผู้สื่อข่าวถามนายเศรษฐาว่ารสชาติเป็นอย่างไร เศรษฐาตอบว่า "โอ้ อร่อยดีครับ"
ช่วงหนึ่ง ระหว่างที่เศรษฐากำลังเดินขอคะแนนอยู่นั้น "พญ.พักตร์พิไล ทวีสิน" ภรรยาของเศรษฐา และ " ณภัทร ทวีสิน หรือ น้อบ บุตรชายของเศรษฐา เดินทางมาให้กำลังใจอีกด้วย
จากนั้น เศรษฐา เดินเท้าไปยังตลาด อ.ต.ก.ซึ่งเศรษฐา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นตลาดที่ตนมาจับจ่ายใช้สอยเป็นประจำ มีร้านโปรดอาทิ ร้านกุ้ยช่าย ร้านทุเรียน โดยเศรษฐา ชอบรับประทานทุเรียนพันธุ์ก้านยาว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าทันทีที่เศรษฐา เดินถึงตลาด อ.ต.ก.พ่อค้าแม่ขายจำนวนมาก รวมถึงแรงงานต่างชาติ เข้ามาขอถ่ายรูปกับเศรษฐา ส่งเสียงเชียร์นายเศรษฐาและพรรคเพื่อไทยลั่นตลาด ทำให้ สุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ซึ่งเดินตามคณะหาเสียงมาด้วย กล่าวกับพ่อค้าแม่ขาย รวมถึงแรงงานต่าวชาติว่า "ค่าแรง 600 เราไม่ได้ให้เฉพาะคนไทยนะ แต่พี่น้องที่ทำงานในประเทศเราก็ได้ทุกคน"
จากนั้น นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระหว่างลงพื้นที่ตลาด อ.ต.ก. โดยเมื่อถามว่า ตลาดแตกเหมือนกันนะมาที่ อ.ต.ก. เศรษฐา ตอบว่า แล้วแต่ว่าเปรียบเทียบกับใคร ยินดี และดีใจ ตนเป็นขาประจำอยู่แล้ว ไม่ได้มาแค่หาเสียง เมื่อถามว่า สะท้อนภาพว่ากระแสเราก็ดีเหมือนกัน เศรษฐา กล่าวขอบคุณ
เมื่อถามถึงหมัดเด็ดหรือยุทธศาสตร์ที่จำเป็นต้องใช้ในช่วงโค้งสุดท้ายเพื่อชนะเลือกตั้ง เศรษฐา ตอบว่า เราคงนำเสนอนโยบายต่อเนื่องไป ตนคิดว่าประเทศชาติบอบช้ำมา 8 ปีแล้ว พรรคเพื่อไทย พิสูจน์มาตลอดตั้งแต่ ไทยรักไทย พลังประชาชน ว่าเราคิดใหญ่ ทำเป็น นโยบายใหญ่ ๆ ดี ๆ เราทำได้มาตลอด เป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชนตลอด ครั้งนี้วันที่ 14 พ.ค. เป็นวันสำคัญวันหนึ่ง เราบอบช้ำมาเยอะ ไม่มีเวลาลองของใหม่ เราต้องกลับไปนั่งคิดว่าพรรคไหนทำให้เราได้ แล้วบุคลากรที่ยังอยู่ในพรรคก็มีอยู่เยอะมาก ตรงนี้เรามั่นใจว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชน
เมื่อถามย้ำว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า ช่วงโค้งสุดท้าย พรรคเพื่อไทยจะมีนโยบายเด็ดออกมา เพื่อให้คนกาพรรคเพื่อไทย เศรษฐา ตอบว่า หากดูจากหลายโพล คนที่ยังไม่ตัดสินใจมีเหลืออยู่น้อยมากแล้ว แต่ก็เหลืออยู่บ้าง หน้าที่ตอนนี้คือต้องขยายความนโยบายหลักของเรา ทำความเข้าใจ และให้ความมั่นใจว่าทำได้จริง พรรคเพื่อไทยตั้งแต่ 20 ปีที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จมาตลอดในการนำเสนอนโยบายใหญ่ จึงไม่เป็นอะไรที่แปลกใจที่เราจะทำได้อีก
เมื่อถามถึงข้อร้องเรียนที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ระบุว่าส่วนหนึ่งเป็นของพรรคเพื่อไทยนั้น เศรษฐา ตอบว่า มั่นใจในการทำงานของทีมงาน และการทำงานด้วยความเป็นธรรมของ กกต. ตรงนี้มีหลายกระแส และพี่น้องต้องจับตาด้วย เพราะการเลือกตั้งนี้ทุกคนทุกพรรค ต้องการให้ขาวสะอาด สะท้อนภาพจริงที่ประชาชนอยากเห็น
เมื่อถามว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหลายพรรคการเมืองเริ่มป่วย หรือออกอาการท้อและเหนื่อย เศรษฐา เป็นอย่างไรบ้าง เศรษฐา ตอบว่า ตนว่าคงไม่มีใครท้อ แต่ตนป่วยมา 10 วันแล้ว ไม่มีท้อ พักผ่อนได้หลังวันที่ 14 พ.ค. มั่นใจได้ว่าเดินหน้า เหยียบคันเร่งเต็มที่
เมื่อถามความเห็นต่อกระแสการตื่นตัวของประชาชนในการออกมาใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าวันนี้ เศรษฐา ตอบว่า ดีมากเลย คิดว่าเป็นการสะท้อนอย่างหนึ่ง ในช่วง 8 ปี เราเดือดร้อน เราเจ็บช้ำมาเยอะมาก จากรัฐบาลรัฐประหาร ตนเชื่อว่าคราวนี้กระแสประชาธิปไตยจะมาแรง วันนี้ไม่ได้เป็นอะไรแปลกใจ ที่คนออกมาเยอะ จึงดีใจและชื่นชม
เมื่อถามว่า กรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงจำนวนผู้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษและจังหวัดอำนาจเจริญ พรรคเพื่อไทย มองว่าผิดปกติหรือไม่ เศรษฐา กล่าวว่า ไม่แน่ใจ ต้องถามฝ่ายกฎหมาย เพราะส่วนตัวก็ลงพื้นที่ แต่มั่นใจว่า กกต. คงทำงานได้อย่างบริสุทธิ์ใจ มีความมุมานะ หวังว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ออกมาขาวสะอาดที่สุด