เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2563 ที่กระทรวงการต่างประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยัน ในการพบปะกลุ่มสภาธุรกิจสหรัฐอาเซียน ว่า เป็นเรื่องธรรมดาของทุกประเทศในระบอบประชาธิปไตยที่มีการชุมนุม ซึ่งในการชุมนุม ไม่อยากกล่าวหาว่าใครดีไม่ดี แต่ทุกอย่าง จะต้องถูกปฏิบัติตามข้อกฏหมาย ถ้าหากทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด ยอมรับว่าจะให้ทุกคนเห็นด้วยในระบอบประชาธิปไตยทั้งหมด คงเป็นไปไม่ได้ แต่จะทำอย่างไร ให้ทุกคนเดินหน้าไปด้วยกันได้ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ยกตัวอย่างเช่น เมื่อช่วงเช้าเกิดปัญหารถติด ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกคน ดังนั้นอย่างให้ทุกคนพิจารณากันเองแล้วกัน ว่าเกิดมาจากอะไร และยืนยัน การประกาศใช้กฏอัยการศึก ว่าบอกหลายครั้งแล้ว ยังไม่เคยคิดเรื่องนี้ ซึ่งการใช้กฏหมายปกติน่าจะเพียงพอแล้ว 

ขณะเดียวกันระหว่างการแถลงข่าว นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงสภาพการจราจรติดขัดเมื่อช่วงเช้านี้ ว่าเป็นเพราะตนเองหรือไม่ ก็ให้ไปพิจารณา แต่ขอร้องทุกคนบ้านเมืองต้องการความสงบ มีเสถียรภาพ และอะไรควรทำไม่ควรทำโดยที่คนไทยทุกคนต้องเรียนรู้ ว่าสิ่งไหนควรทำไม่ควรทำ เพราะหลายที่เกิดเป็นการเรียนรู้ให้กับคนไทย ว่าจะอยู่กับโลกยุคใหม่ได้อย่างไร โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัล และการเข้าสู่ยุค 4.0 รวมถึง นิวนอร์มอล ถ้าหากประเทศไม่เดินหน้า ประชาชนเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นต้องบังคับใช้กฏหมาย โดยไม่ได้มีการสั่งการเจ้าหน้าที่เพื่มเติม  เพราะเจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฏหมายอยู่แล้ว 

ส่วนการที่ผู้ชุมนุมประกาศชุมนุมอย่างต่อเนื่อง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หากจะประกาศชุมนุมต่อเนื่อง ก็ชุมนุมไป แต่ขออย่าทำผิดกฏหมาย 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังปฏิเสธที่บอกว่า หลังเสร็จสิ้นการประชุมที่กระทรวงการต่างประเทศแล้ว จะเดินทางเข้าทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลต่อหรือไม่ โดยระบุว่า เป็นเรื่องความปลอดภัยของตนเอง พร้อมถามสื่อมวลชนว่า เดี๋ยวนี้ดูเวลานายกรัฐมนตรี ออกอากาศ แต่ยืนยันใช้เวลาที่เหลือ ทำงานตลอด