นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวก่อนการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งรายละเอียดยังไม่ทราบ ในการปลดล็อกเฟสที่ 3 แต่ให้นโยบายของปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก

ส่วนสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่กลับตัวเลข 2 หลักนั้น เป็นตัวเลขของผู้ป่วยติดเชื้อที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศที่ติดเชื้อ ต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล รวมถึงต้องอำนวยความสะดวกให้ทุกคน กักตัว 14 วัน ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ประมาทและการ์ดก็ยังไม่เคยตก จึงขอให้สื่อหยุดตั้งคำถามชี้นำเพราะอาจจะทำให้ประชาชนที่อยู่ในต่างจังหวัดเกิดความสับสน และตกใจ

ส่วนความคืบหน้ากรณีกระแสข่าวว่ามีการหักหัวคิวสำหรับโรงแรมที่เปิดให้เป็นพื้นที่ กักตัวโดยรัฐ (State quarantine) ยืนยันว่าไม่มีใครกล้าทำ เนื่องจากคนที่จะอนุมัติงบต้องตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะมีความผิดในฐานะร่วมกันกระทำผิดในวงราชการ ซึ่งที่ผ่านมามีคนไปแอบอ้าง บีบคั้นข้าราชการ เช่นเดียวกับตนเอง ที่มีการอ้างว่าเป็นคู่เขยของตน ยืนยันว่าตนไม่มีภรรยา จะมีคู่เขยได้อย่างไร พร้อมปฏิเสธตอบคำถาม ไม่ทราบว่าบุคคลในข่าวคือใคร และจำเป็นที่จะต้องทราบในเรื่องดังกล่าว พร้อมเชื่อมั่นในการคัดกรองงบประมาณ

ส่วนมาตรการคลายล็อกเฟส 3 ต้องรอผลการหารือ แต่ขณะนี้การรักษามาตรฐานใส่หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่าง ตามแนววิถีใหม่ หรือ New Normal งดการใช้ภาชนะร่วมกัน ซึ่งพื้นฐานเหล่านี้ก็น่าจะเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม ตนเตรียมเสนอนายกฯ ว่าหาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ครบกำหนดแล้ว ยังควรมีคณะทำงานไว้อยู่ ส่วนวันที่ 1 ก.ค. นี้ จะครบกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่ก็ยังมี พ.ร.บ.โรคติดต่อครอบคลุมอยู่ อีกทั้งยังมีประกาศให้โควิด-19 เป็นปัญหาโรคติดต่ออันตราย เป็นเรื่องสำคัญกว่าการเมือง ศักดิ์ศรี และอำนาจใดๆ ทั้งสิ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• สมช.เสนอลดเวลาเคอร์ฟิวเป็น 5ทุ่ม-ตี3 รอ ศบค.เคาะวันนี้