ไม่พบผลการค้นหา
รองโฆษกฯ รบ. ขอบคุณประชาชนร่วมฟังอภิปราย เชื่อ ปชช.เห็น นายกฯมีสปิริต สุจริต เคารพกระบวนการยุติธรรม ใครทำผิดไม่มีละเว้น ยันปฏิรูปประเทศเป็นรูปธรรม

ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขอบคุณประชาชนที่ร่วมฟังการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ตลอด 2 วันที่ผ่านมา ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ได้เตรียมข้อมูลมาชี้แจงผู้อภิปรายได้อย่างชัดเจน ในประเด็นที่ฝ่ายค้านอาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงได้อย่างครบถ้วน ที่สำคัญคือท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยันชัดเจนในการทำหน้าที่ ไม่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้ใด และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ย้ำในที่ประชุมสภาฯว่า "คนไม่ดีต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย” ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน หากมีการกระทำความผิดไม่มีการละเว้น เราต้องทำให้กฎหมายเป็นกฎหมาย ต้องเคารพในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ ซึ่งตรงนี้เชื่อว่า ประชาชนที่ติดตามการอภิปรายจะเห็นถึงสปิริตของผู้นำและสุจริตใจ ในการบริหารประเทศแน่นอน

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังพร้อมเดินหน้าปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ โดยได้ผลักดันกฎหมายที่สร้างความเป็นธรรมให้กับสังคม 5 ฉบับ พระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศหรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. 2565 พระราชบัญญัติกำหนดระยะเวลาดำเนินงานในกระบวนการยุติธรรม พ.ศ. 2565 ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความยุติธรรมโดยไม่ล่าช้า พระราชบัญญัติว่าด้วยการปรับเป็นพินัย พ.ศ. 2565 กำหนดให้ผู้ที่ผ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง ชำระค่าปรับตามที่กำหนด โดยไม่เป็นโทษอาญา ไม่มีการจำคุกหรือกักขังแทนค่าปรับ ไม่มีการลงบันทึกประวัติอาชญากรรม พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 แก้ปัญการกระทำทรมาน และการกระทำให้บุคคลสูญหาย ขจัดปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน และพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2565 เพื่ออุดช่องโหว่ของกฎหมาย ที่ไม่มีบทบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน 

“จะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีผลงานในการปฏิรูปประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ ตามนโยบายThailand 4.0 ที่มุ่งสนับสนุนการดำเนินธุรกิจที่รับผิดชอบสิ่งแวดล้อม หลังจากนี้จะเดินหน้าพัฒนาประเทศ ให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมอารยประเทศ” ทิพานัน กล่าว