ไม่พบผลการค้นหา
กรมอุตุฯ ชี้แจงข่าวลือ "ปรากฏการณ์ Equinox" ไม่เกี่ยวกับอุณหภูมิผันผวนอย่างที่มีการแชร์ข้อความต่อๆ กัน แนะติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากกรมฯ เท่านั้นป้องกันความสับสนและตื่นตระหนก

กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่าตามที่มีการส่งข้อมูลผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ในวันที่ 10 พ.ค. 2563 เป็นการแจ้งเตือนและส่งข้อความ "เนื่องจากปรากฏการณ์ Equinox ที่จะส่งผลต่อเราในอีก 5 วันข้างหน้ากรุณาอยู่ข้างในโดยเฉพาะเวลา 12.00น.-15.00 น. ทุกวันอุณหภูมิจะผันผวนสูงถึง 40 องศาเซลเซียส สิ่งนี้สามารถทำให้เกิดการคายน้ำและแดดได้ง่าย (ป.ล.:ปรากฏการณ์นี้เกิดจากการที่ดวงอาทิตย์อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรโดยตรง) โปรดให้ทุกคนได้รับความชุ่มชื้น ทุกคนควรบริโภคของเหลวประมาณ 3 ลิตรทุก...." นั้น

กรมอุตุนิยมวิทยา ขอชี้แจงว่า ข้อมูลดังกล่าวข้างต้นมิได้มีแหล่งที่มาจากกรมอุตุนิยมวิทยา และยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับความแปรปรวนของสภาพอากาศอันเนื่องมาจากปรากฏการณ์ Equinox

โดยปรากฏการณ์ Equinox เป็นปรากฏการณ์ที่แสงจากดวงอาทิตย์ตั้งฉากกับเส้นศูนย์สูตรทำให้ระยะเวลาของกลางวันและกลางคืนเท่ากัน ระยะเวลาที่เท่ากันใน 1 ปีจะเกิดปรากฏการณ์ Equinox 2 ครั้ง คือในช่วงวันที่ 20 หรือ 21 ของเดือน มี.ค. และอีกช่วงวันที่ 22 หรือ 23 เดือน ก.ย.

ซึ่งปรากฏการณ์ Equinox นี้จะเป็นจุดแบ่งฤดูกาลของซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ได้อีก ไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ โดยปกติอุณหภูมิจะแปรผันโดยตรงกับสภาพอากาศที่เกิดขึ้น อากาศที่ร้อนหรือร้อนจัดในขณะนี้เกิดขึ้นเนื่องจากอิทธิพลของความกดอากาศต่ำ เนื่องจากความร้อนปกคลุมไม่ใช่คลื่นความร้อน

และจากการคาดหมายสภาพอากาศ 5 วันข้างหน้านับจากวันที่ 10 พ.ค. สภาพอากาศของประเทศไทยจะมีความแปรปรวนเกิดขึ้นเนื่องจะมีความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นแผ่ลงมาปกคลุมทางตอนบนของไทย ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีเมฆและมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น อากาศมีความชื้นสูงขึ้นและอุณหภูมิจะเริ่มลดลงแต่อาจจะมีบางพื้นที่ที่ยังมีอากาศร้อนอยู่บ้างอุณหภูมิจะสูงสุดประมาณ 37-39 องศาเซลเซียส

จึงขอแนะนำให้ประชาชนรักษาสุขภาพ ขณะที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงและระมัดระวังพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น ติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุนิยมวิทยาเท่านั้น เพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกขึ้นในสังคมหากมีข้อสงสัยหรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่สายด่วน 1182 และหมายเลขโทรศัพท์ 0-2399-4012-3 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th/